หน่วยงานการเงินของสหรัฐฯ เข้ายึดธนาคาร First Republic ที่ประสบปัญหา และขายให้กับ JPMorgan โดยหวังว่าจะปิดฉากวิกฤตการธนาคารที่สร้างความปั่นป่วนทางการเงินมานานกว่า 2 เดือน
ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับบลิค ของสหรัฐอเมริกา (Photo by JUSTIN SULLIVAN / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า เฟิร์สท์ รีพับบลิค (First Republic) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา กำลังประสบภาวะล่มสลายทางการเงิน หลังจากเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สูญเสียเงินฝากมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ (3.4 ล้านล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปี
สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ในซานฟรานซิสโกตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายตั้งแต่การล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ และซิกเนเจอร์แบงก์เมื่อเดือนมีนาคม ทำให้วิกฤตทางการเงินของเฟิร์สท์ รีพับบลิค สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดเพราะเกรงว่าจะล้มละลายตามสองธนาคารก่อนหน้า
หลังจากธนาคารเฟิร์สท์ รีพับบลิคล้มเหลวในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและหุ้นของธนาคารยังคงดิ่งลงเรื่อยๆ หน่วยงานทางการเงินของสหรัฐฯจึงก้าวเข้ามา พร้อมความพยายามหาผู้ซื้อเพื่อมากอบกู้สถานะทางบัญชี ก่อนเข้ายึดธนาคารอย่างเป็นทางการในวันนี้
หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐแคลิฟอร์เนียได้แต่งตั้งบรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (เอฟดีไอซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการรับประกันเงินฝากธนาคาร ให้เข้ามารับผิดชอบด้านสินทรัพย์ของเฟิร์สท์ รีพับบลิค เพื่อเตรียมขายต่อให้กับเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) ทันที
ล่าสุด เจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้เข้าซื้อกิจการของเฟิร์สท์ รีพับบลิคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจพีมอร์แกนจะกู้คืนเงินฝากทั้งหมดของธนาคาร รวมถึงสินทรัพย์เกือบทั้งหมด ตามแถลงการณ์ของเอฟดีไอซี
หน่วยงานของรัฐบาลกลางประเมินว่าจะต้องใช้เงินทุนอัดฉีดประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์ (444,000 ล้านบาท) เพื่อชดเชยการขาดทุนของเฟิร์สท์ รีพับบลิค โดยสาขาธนาคารทั้ง 84 แห่งจะกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติในวันจันทร์
"รัฐบาลสหรัฐเชื้อเชิญให้เราและคนอื่นๆ ก้าวเข้ามากอบกู้ และเราก็ทำตามนั้น" เจมี ดิมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน กล่าวในแถลงการณ์หลังการประกาศข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ
หลังจากประกาศการควบคุมกิจการของเฟิร์สท์ รีพับบลิค และการเข้าซื้อกิจการต่อของเจพีมอร์แกน กระทรวงการคลังสหรัฐพยายามคลายความกังวลของนักลงทุนและประชาชนทั่วไป
"ระบบธนาคารของสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและยืดหยุ่นได้ ดังนั้นชาวอเมริกันควรรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยของเงินฝาก และความสามารถของระบบธนาคารในการทำหน้าที่สำคัญในการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจและครอบครัว" โฆษกกระทรวงการคลังกล่าว.
