น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือเตือนแผนนิวเคลียร์สหรัฐ-เกาหลีใต้ จะกระตุ้นให้เกิด 'อันตรายที่ร้ายแรงยิ่งกว่า'

น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือเตือนสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า ข้อตกลงระหว่างสองชาติในความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ที่มุ่งเป้าสร้างการป้องปรามต่อรัฐบาลเปียงยาง จะนำไปสู่อันตรายที่ร้ายแรงยิ่งกว่า

แฟ้มภาพ คิม โยจอง น้องสาวของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ (Photo by KCNA VIA KNS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 กล่าวว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ประกาศความร่วมมือในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์ของตนเองโจมตีชาติพันธมิตรและผู้นำคิมจองอึนจะต้องพบกับจุดจบ ในการหารือทวิภาคีที่กรุงวอชิงตันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล

รัฐบาลเปียงยางออกมาเคลื่อนไหวต่อประเด็นที่ถูกกล่าวถึง โดยคิม โยจอง ซึ่งเป็นน้องสาวของคิม จองอีน กล่าวว่าเกาหลีเหนือยังคงเชื่อมั่นว่าอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ "ควรได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่านี้"

"ยิ่งศัตรูตายจากการซ้อมรบในสงครามนิวเคลียร์ และยิ่งมีการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในบริเวณใกล้เคียงคาบสมุทรเกาหลีมากเท่าไหร่ การใช้สิทธิในการป้องกันตนเองของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น" เธอกล่าวผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ออกปฏิญญาวอชิงตันร่วมกันเมื่อวันพุธ โดยมุ่งเน้นการแบ่งปันข้อมูลและสนับสนุนอาวุธนิวเคลียร์ให้เกาหลีใต้ใช้รับมือการคุกคามด้านการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

การดำเนินการดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับ "การติดตั้งสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์อย่างสม่ำเสมอ" รวมถึงการส่งเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐไปยังน่านน้ำของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม คิม โยจอง กล่าวว่า "ข้อตกลงดังกล่าวมีแต่จะส่งผลให้สันติภาพและความมั่นคงของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและโลก ตกอยู่ในอันตรายที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น และเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้"

เกาหลีเหนือได้ท้าทายมาตรการคว่ำบาตรมานานหลายปี เพื่อแลกกับการเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่อไป และเมื่อปีที่แล้วก็ประกาศตัวเองว่าเป็นรัฐแห่งนิวเคลียร์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้

รัฐบาลเปียงยางระดมทดสอบอาวุธชนิดใหม่ๆและขีปนาวุธหลายประเภทบ่อยครั้งในช่วงหลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการทดสอบยิงขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งลูกแรกของประเทศ ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญทางเทคโนโลยีอาวุธสำหรับกองทัพของคิม จองอึน

รัฐบาลวอชิงตันและโซลตอบโต้ด้วยการเพิ่มความร่วมมือด้านกลาโหม โดยจัดให้มีการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันด้วยเครื่องบินไอพ่นล่องหนขั้นสูงและยุทโธปกรณ์ทางยุทธศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โจ ไบเดน เลื่อนการเดินทางเยือนเยอรมนี เหตุเพราะพายุเฮอร์ริเคน ‘มิลตัน’

เดิมทีมีแผนจะหารือเกี่ยวกับยูเครนและตะวันออกกลาง ทว่าพายุเฮอร์ริเคนเข้ามาขวางทางเสียก่อน เป็นเหตุให้ประธ