กองทัพสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ซ้อมรบร่วมทางทะเลเป็นวันสุดท้ายด้วยการยิงกระสุนจริงใส่เรือรบที่จำลองเป็นศัตรูในทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท
กองทัพสหรัฐฯ ยิงกระสุนจรวดหลายลำกล้องแม่นยำสูง (HIMARS) ระหว่างการซ้อมรบร่วมกับกองทัพฟิลิปปินส์ ที่ฐานฝึกกองทัพเรือในซานอันโตนิโอ จังหวัดซัมบาเลส ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน (Photo by TED ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 26 เมษายน 2566 กล่าวว่า ในการซ้อมรบร่วมทางทหารวันสุดท้ายของกองทัพสหรัฐฯและฟิลิปปินส์ มีการจำลองสถานการณ์การรบในทะเลจีนใต้ รวมทั้งการโจมตีเรือรบซึ่งเป็นตัวแทนของข้าศึกด้วยการยิงกระสุนจริง
นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองประเทศได้ทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงร่วมกันในน่านน้ำที่มีการพิพาทกันอย่างดุเดือด ซึ่งจีนอ้างสิทธิ์เกือบทั้งหมด
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ซึ่งแสวงหาความสัมพันธ์แนบแน่นด้านกลาโหมกับสหรัฐฯ เดินทางมาเฝ้าดูการซ้อมในหอสังเกตการณ์ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์
การซ้อมเริ่มขึ้นด้วยการยิงระบบจรวดหลายลำกล้องแม่นยำสูง (HIMARS) ของสหรัฐฯ แบบเป็นชุด ไปยังเรือลาดตระเวนของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ที่ปลดประจำการแล้ว ซึ่งจอดทอดสมออยู่ห่างชายฝั่งประมาณ 22 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายคือการจมเรือเก่าลำนั้น เสมือนว่าเป็นตัวแทนของเรือข้าศึกที่เข้ามาใกล้ชายฝั่งฟิลิปปินส์
ตามมาด้วยหน่วยปืนใหญ่ระดมยิงจรวดใส่ทุ่นลอยน้ำที่อยู่นอกชายฝั่ง 10 กิโลเมตร
เครื่องบิน F-16 Fighting Falcons, เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64 Apache และเครื่องบินขับไล่ FA-50 ของกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ก็เข้าร่วมในการฝึกวันนี้เช่นกัน
การฝึกนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นการแสดงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรในเอเชีย ท่ามกลางความอหังการที่เพิ่มขึ้นของจีน
มีรายงานว่าทหารเกือบ 18,000 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบประจำปีที่เรียกว่า “บาลิกาตัน” หรือเคียงบ่าเคียงไหล่ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการซ้อมรบที่มีการยิงกระสุนจริงในทะเลจีนใต้ และระหว่างการฝึกรบ กองทัพสหรัฐฯ ยังมีการเปิดตัวขีปนาวุธแพทริออต ซึ่งถือเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ดีที่สุดระบบหนึ่งของโลก
ตามข้อตกลงใหม่ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพสหรัฐฯได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานทัพในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงฐานทัพที่อยู่ใกล้ไต้หวันด้วย ซึ่งนั่นเป็นประเด็นที่สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับรัฐบาลจีน.