สิงคโปร์แขวนคอนักโทษลักลอบขนกัญชากว่า 1 กิโลกรัม

สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษด้วยการแขวนคอ จากข้อหาลักลอบขนกัญชาเข้าประเทศน้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนทักท้วงข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม

บริเวณหน้าศาลสูงในสิงคโปร์ (Photo by Roslan RAHMAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 26 เมษายน 2566 กล่าวว่า ศาลสิงคโปร์ตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอต่อผู้ต้องหาในคดีลักลอบขนกัญชาน้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม เข้าประเทศ

"ทังการาจู ซุปเปียห์ ชาวสิงคโปร์ วัย 46 ปี ได้รับโทษแขวนคอเรียบร้อยแล้วในวันนี้ ที่เรือนจำชางงี" โฆษกของเรือนจำสิงคโปร์บอกกับเอเอฟพี

"ทังการาจูถูกศาลตัดสินโทษในปี 2560 ด้วยข้อหาสนับสนุนและสมรู้ร่วมคิดกับการลักลอบขนกัญชาน้ำหนัก 1,017.9 กรัม ซึ่งมากเป็นสองเท่าของปริมาณขั้นต่ำสำหรับโทษประหารชีวิตในสิงคโปร์" โฆษกฯกล่าวเสริม

ในปี 2561 ทังการาจูยื่นอุทธรณ์ แต่ศาลก็ยังคงยืนคำตัดสินเดิมให้มีการประหารชีวิต ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนอ้างว่าพบเห็นจุดบกพร่องหลายอย่างในกระบวนการยุติธรรมของคดีนี้

สิงคโปร์ปฏิเสธคำร้องขอของสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ต้องการให้พิจารณาโทษใหม่อย่างเร่งด่วน

ทางการสิงคโปร์ยืนยันว่าคดีของผู้ต้องหารายนี้ได้รับการพิจารณาด้วยความยุติธรรมตามหลักสากล และความผิดของเขาได้รับการพิสูจน์โดยปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล

กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์กล่าวว่า "หลักฐานแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาเป็นผู้ประสานงานในการส่งยาเสพติดเพื่อวัตถุประสงค์ในการค้า"

ประเทศศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชียแห่งนี้มีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดในโลก และยืนยันว่าโทษประหารชีวิตยังคงเป็นมาตรการยับยั้งการลักลอบค้ายาเสพติดอย่างได้ผล

ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เฝ้าติดตามตรวจสอบคดีนี้มาตลอดเผยว่า หลักฐานที่กระบวนการยุติธรรมสิงคโปร์ใช้ดำเนินการกับผู้ต้องหานั้นยังห่างไกลจากความชัดเจน เนื่องจากผู้ต้องหาไม่เคยแตะต้องกัญชาที่เป็นของกลาง นอกจากนี้เขายังถูกตำรวจสอบสวนโดยไม่มีทนายความ และถูกปฏิเสธการร้องขอล่ามภาษาทมิฬ

ฮิวแมนไรต์วอตช์และแอมเนสตี้แถลงว่า โทษประหารด้วยการการแขวนคอสร้างความกังวลอย่างมากว่าสิงคโปร์กำลังสนุกสนานกับกระบวนการยุติธรรมในทางที่ผิด

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกดดันสิงคโปร์ให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต และองค์การสหประชาชาติระบุว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นการยับยั้งอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพในโลกสากล และไม่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

สิงคโปร์กลับมาใช้โทษประหารชีวิตอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2565 หลังห่างหายไป 2 ปี ขณะที่โทษประหารด้วยการแขวนคอล่าสุดถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และเป็นครั้งที่ 12 นับตั้งแต่ปีที่แล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ

แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง