'อัมสเตอร์ดัม' ไม่ขอเป็นเมืองปาร์ตี้และพี้ยาอีกต่อไปแล้ว

การสูบกัญชา ดื่มเหล้า และเสพกามแบบไม่มีใครรบกวน ดูเหมือนจะกลายเป็นโปรแกรมวันหยุดในอัมสเตอร์ดัมของใครหลายๆ คน คนอังกฤษ เยอรมัน และอิตาลีหลายรุ่นต่างรู้จักเมืองนี้แบบนี้ อีกทั้งยังมีบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งที่นิยมจัด ‘ทริปปาร์ตี้ที่น่าจดจำ’ พาทัวร์เมาและปาร์ตี้สละโสดใน De Wallen ซึ่งเป็นย่านโคมแดงที่มีชื่อเสียงของเมือง โดยมักไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อาศัยในย่านนั้น

ปี 2019 อัมสเตอร์ดัมมีนักท่องเที่ยวเข้าพักค้างเกือบ 22 ล้านคน สามปีถัดมา หลังจากสิ้นสุดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดทั้งหมด มีนักท่องเที่ยวกลับไปเยือนอีกครั้งจำนวน 18 ล้านคน สำหรับเมืองซึ่งมีประชากร 880,000 คนนับเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางไปเพื่อเสพสุรา ปาร์ตี้ และยาเสพติด ความขัดแย้งกับคนในท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตั้งแต่ปี 2021 เฟมเก ฮัลเซมา-นายกเทศมนตรีจากพรรคสีเขียวของอัมสเตอร์ดัม ได้กำหนดโควตาการพักค้างคืนสำหรับเมืองนี้ไว้ไม่เกิน 20 ล้านครั้งต่อปี ก่อนหน้านี้ชาวเมืองเคยรวมตัวกันเรียกร้องให้จำกัดนักท่องเที่ยวสูงสุดที่ 12 ล้านคน อีกทั้งสภาเทศบาลก็ตัดสินใจใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อจำกัดจำนวนนักเที่ยวปาร์ตี้บริเวณรอบคลองทุกสาย

และตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปจะมี ‘blowverbod’ ในใจกลางอัมสเตอร์ดัม นั่นคือกฎห้ามสูบกัญชาในที่โล่งแจ้งอีกต่อไป แต่จะอนุญาตให้สูบได้เฉพาะในคอฟฟีช็อปเท่านั้น ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงถึง 100 ยูโร ผับบาร์จะมีกฎห้ามรับลูกค้าใหม่หลังเวลาตีหนึ่ง และควรปิดไม่เกินตีสอง โสเภณีก็ต้องรูดม่านปิดให้บริการไม่เกินตีสาม แทนที่จะเป็นหกโมงเช้าเหมือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ธุรกิจการค้าประเวณีส่วนใหญ่ถูกอพยพไปอยู่แถวชานเมืองแล้วด้วย

นอกจากนี้เทศบาลเมืองยังเผยแพร่โฆษณาทางออนไลน์เพื่อกันนักท่องเที่ยวประเภทน่ารำคาญโดยเฉพาะ นั่นคือแคมเปญ ‘Stay Away!’ ที่พุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษอายุระหว่าง 18-35 ปี หากใครค้นหาคำต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตจากสหราชอาณาจักร เช่นคำว่า ‘stag party Amsterdam’ ‘cheap hotel Amsterdam’ หรือ ‘pub crawl Amsterdam’ ก็จะถูกโยงเข้าเว็บเตือนถึงความเสี่ยงของการเสพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาที่มากเกินไป รวมถึงเตือนเรื่องค่าปรับ ค่ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือความเสียหายต่อสุขภาพอย่างถาวร

“เรายังคงยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน แต่จะไม่ยินดีหากพวกเขาประพฤติตัวไม่เหมาะสมหรือก่อความรำคาญ ในกรณีนี้เราในฐานะเมือง ขอบอกว่า ‘ไม่ดีกว่า อยู่ให้ห่างดีกว่า’ – นั่นคือข่าวประชาสัมพันธ์จากฝ่ายบริหารของอัมสเตอร์ดัม แคมเปญนี้จะขยายไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวน่ารำคาญในประเทศต่างๆ ของสหภาพยุโรป เพียงแต่ยามนี้มีเพียงหนุ่มๆ ชาวอังกฤษเท่านั้นที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย พวกเขาสร้างชื่อเสียไว้ที่อัมสเตอร์ดัมเป็นพิเศษ

มาตรการข้อบังคับใหม่ดูเหมือนไม่ถูกใจบรรดาเจ้าของคอฟฟีช็อปนัก เป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษแล้วที่การซื้อขายและการเสพเป็นที่ยอมรับในเนเธอร์แลนด์ ในขณะที่การเพาะปลูกยังคงผิดกฎหมาย และการสูบกัญชาในที่สาธารณะยังคงเป็นเรื่องต้องห้ามเกือบทุกที่ในยุโรป แต่ปัจจุบันหลายประเทศได้ออกกฎหมายกัญชาเสรี และยอมรับอย่างกว้างขวางว่ากัญชาเป็นยา ผู้ค้ากัญชามองว่าปัญหาเกิดจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป และเพื่อแก้ปัญหา ฝ่ายการเมืองควรอนุมัติเที่ยวบินราคาประหยัดให้น้อยลง เป็นต้น ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการใหม่เกรงว่า สุดท้ายแล้วผลประโยชน์ทั้งหมดก็จะตกไปอยู่ในมือของกลุ่มผู้ค้าตลาดมืด

อย่างไรก็ตาม แคมเปญ ‘Stay Away!’ ดูเหมือนว่าภาพจะกลับตาลปัตร สื่อแท็บลอยด์ของอังกฤษรายงานล่าสุดว่า บริษัททัวร์สำหรับ ‘stag nights’ และ ‘hen nights’ ในอัมสเตอร์ดัมกำลังทำลายสถิติการจองมากกว่าที่เคยเป็นมา.