รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเยือนกรุงมะนิลา ท่ามกลางการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ของฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนมีกำหนดเดินทางถึงกรุงมะนิลาในวันศุกร์นี้ เพื่อพยายามกระชับความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์ซึ่งกำลังซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ที่สุด

ฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน (Photo by Hector RETAMAL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 กล่าวว่า ฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนเดินทางถึงกรุงมะนิลา เพื่อปฏิบัติภารกิจกระชับความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์ที่อยู่ในระหว่างการซ้อมรบร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ที่สุด

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าวว่า ฉิน กังมีกำหนดจะเข้าพบเอ็นริเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ต่อด้วยการหารือร่วมกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ในวันเสาร์นี้

การเยือนของรัฐมนตรีจากจีนเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพฟิลิปปินส์และกองทัพสหรัฐฯกำลังซ้อมรบร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ 11-28 เมษายน โดยมีทหารเข้าร่วมกว่า 18,000 นาย และปฏิบัติการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นการแสดงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรในเอเชีย ท่ามกลางความอหังการที่เพิ่มขึ้นของจีน

เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์พยายามกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลวอชิงตัน หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต เคยทิ้งความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาและหันไปซบจีนเพื่อทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจและโครงการมหภาคด้านโครงสร้างพื้นฐาน แม้ขณะนั้นจะมีการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนทางยุทธศาสตร์ที่ขัดแย้งกันระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ก็ตาม

กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุในถ้อยแถลงว่า "ประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน" จะเป็นส่วนหนึ่งของการหารือ รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตร, การค้า, พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน จะอยู่ในวาระการประชุมเช่นกัน

หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การเยือนของฉิน กัง มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และจัดการกับความแตกต่างอย่างเหมาะสมกับฟิลิปปินส์

"จีนตั้งตารอที่จะกระชับการสื่อสารกับฟิลิปปินส์ผ่านการเยือนครั้งนี้" หวัง เหวินปินกล่าวในการบรรยายสรุปประจำวัน

การอ้างสิทธิ์ที่ทับซ้อนกันในทะเลจีนใต้เป็นประเด็นสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ โดยรัฐบาลปักกิ่งอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมด พร้อมส่งเรือหลายร้อยลำไปตรวจตราน่านน้ำอยู่เป็นประจำและครอบครองแนวปะการัง นอกจากนี้ยังเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศในปี 2559 ที่ว่าการอ้างสิทธิ์ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย

ก่อนหน้านี้ หวัง อี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีนเคยไปเยือนมาร์กอสเมื่อปีที่แล้วหลังชัยชนะในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดยกล่าวถึงการสร้าง "ยุคทองใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี" ระหว่างทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา มาร์กอสก็หันไปกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น

ผู้นำฟิลิปปินส์จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาและเข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในเดือนหน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับความพยายามในการกระชับความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างพันธมิตร

รัฐบาลมะนิลาและรัฐบาลวอชิงตันเห็นพ้องกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาที่จะเริ่มการลาดตระเวนร่วมทางทะเลในทะเลจีนใต้อีกครั้ง และตกลงที่จะขยายการประจำการของกองกำลังสหรัฐฯ ในประเทศ

มาร์กอสยังอนุญาตให้สหรัฐฯ หมุนเวียนกองกำลังของตนไปยังฐานทัพในฟิลิปปินส์เพิ่มอีก 4 แห่งภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมเพิ่มเติม (อีดีซีเอ) ที่ 2 ชาติทำข้อตกลงกันไว้เมื่อปี 2557 จากของเดิมที่อนุญาตให้เข้าถึงฐานทัพได้ 5 แห่ง ก่อนหน้านี้

ฐานทัพใหม่ประกอบด้วยฐานทัพเรือและสนามบินในจังหวัดทางตอนเหนือใกล้กับไต้หวัน และฐานทัพอากาศนอกเกาะใกล้ทะเลจีนใต้

แม้ว่ากองทัพฟิลิปปินส์จะเป็นหนึ่งในกองทัพที่อ่อนแอที่สุดในเอเชีย แต่การมีพื้นที่ใกล้กับไต้หวันและน่านน้ำโดยรอบจะทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งกับจีน.

เพิ่มเพื่อน