ซีอีโอโมเดอร์นาทำวิตก เตือนวัคซีนได้ผลน้อยกับโอไมครอน

สเตฟาน บ็องเซล ซีอีโอของบริษัท โมเดอร์นา ทำตลาดทุนทั่วโลกผวาเมื่อวันอังคาร หลังจากเตือนว่าวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่อาจจะมีประสิทธิภาพลดลงในการต่อต้านสายพันธุ์โอไมครอน

การพบเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอนแอฟริกาใต้สร้างความหวาดผวาทั่วโลกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลายประเทศประกาศมาตรการจำกัดการเดินทางจากประเทศในภูมิภาคแอฟริกาใต้และประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ ข่าวการค้นพบไวรัสที่มีการกลายพันธุ์มากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงสูญมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แม้นักลงทุนจะกลับมาตั้งสติได้ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของไวรัสนี้ แต่เมื่อวันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ตลาดทุนทั่วโลกกลับมาดิ่งลงอีกครั้งเพราะคำเตือนของสเตฟาน บ็องเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโมเดอร์นา

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า ผู้บริหารโมเดอร์นารายนี้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ฉบับวันอังคารว่า น่าจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโอไมครอนภายใน 2 สัปดาห์ แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้มองในแง่ดีนัก

บ็องเซลกล่าวว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนคงไม่อยู่ในระดับเดียวกับเดลตา ตัวเขาคิดว่าประสิทธิภาพจะลดลง เขาไม่รู้ว่ามากแค่ไหน เพราะต้องรอข้อมูล แต่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนที่เขาได้คุยด้วยมองว่ามันน่าจะออกมาไม่ดี

คำกล่าวของเขากระพือความหวาดกลัวว่า การดื้อต่อวัคซีนอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยหรือการเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น และทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดยืดยาวออกไปอีก

รอยเตอร์กล่าวว่า ตลาดหุ้นหลักๆ ของยุโรปร่วงลงราว 1.5% ในการซื้อขายช่วงแรกของวันอังคาร ส่วนดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นปิดตลาดวันอังคารลดลง 1.6%, สัญญาซื้อขายน้้ามันดิบล่วงหน้าลดลงมากกว่า 3% และอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าสุดในรอบ 1 ปี

คำเตือนของซีอีโอโมเดอร์นามีออกมาหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ช่วยคลายความกังวลของตลาดก่อนหน้านี้ โดยประกาศว่าสหรัฐจะไม่กลับไปล็อกดาวน์อีก แต่เขาเรียกร้องให้สหรัฐขยายการฉีดวัคซีนมากขึ้น โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐแนะให้ทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปรับการฉีดโดสกระตุ้น

บ็องเซลกล่าวว่า นักวิจัยกังวลเพราะพบการกลายพันธุ์ในโอไมครอนระหว่าง 32-50 ตำแหน่งในโปรตีนส่วนหนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไวรัสที่วัคซีนใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส.