กองทัพสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ดำเนินการซ้อมรบร่วมกันและล่าสุดมีการใช้ขีปนาวุธต่อต้านรถถังในการจำลองสงคราม สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่อรัฐบาลจีน
ทหารสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถังระหว่างการซ้อมจำลองสถานการณ์จริง เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบร่วมทางทหารประจำปีระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ ที่เรียกว่า “บาลิกาตัน” ที่ป้อมแมกไซไซในจังหวัดนวยบา เอซีจา ทางเหนือของกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 13 เมษายน (Photo by Ted ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2566 กล่าวว่า กองทัพฟิลิปปินส์และกองทัพสหรัฐฯเริ่มซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่วันอังคาร โดย 2 ชาติที่เป็นพันธมิตรกันมายาวนาน ต้องการตอบโต้การแสดงอำนาจของจีนที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค
มีรายงานว่าทหารเกือบ 18,000 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบประจำปีที่เรียกว่า “บาลิกาตัน” หรือเคียงบ่าเคียงไหล่ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการซ้อมรบที่จะซ้อมยิงกระสุนจริงในทะเลจีนใต้ โดยการฝึกซ้อมทางทหารดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกองทัพจีนสิ้นสุดการซ้อมรบที่จำลองการโจมตีไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน
ในการฝึกซ้อมล่าสุด มีการใช้ขีปนาวุธต่อต้านรถถังในการยิงจำลองสถานการณ์ และประสบผลสำเร็จอย่างดี หลังจากรถยนต์ 3 คันที่จอดอยู่บนพื้นหญ้าถูกบดขยี้ด้วยขีปนาวุธที่ยิงจากระยะ 600 เมตร โดยทหาร 3 นายที่ฐานทัพทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์
นายพลชาร์ลส์ ฟลินน์ ผู้บัญชาการกองทัพบกภาคพื้นแปซิฟิกของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เกมสงครามที่กำลังดำเนินอยู่นี้เป็นการแสดงออกที่สำคัญถึงความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อรักษาอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง
ขณะที่พลโทโรมิโอ บราวเนอร์ ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าวชื่นชมประสิทธิผลของขีปนาวุธต่อต้านรถถังที่มีการใช้จริงในยูเครนเพื่อต่อต้านรถถังและพาหนะหุ้มเกราะของรัสเซีย พร้อมเสริมว่า รัฐบาลมะนิลามีแผนที่จะจัดหาอาวุธดังกล่าวมาใช้ในอนาคต
"เราต้องการนำความสามารถดังกล่าวมาสู่กองทัพฟิลิปปินส์ด้วย เพื่อให้เราสามารถสนับสนุนการป้องกันตนเองและสามารถปกป้องดินแดนของเราได้" บราวเนอร์กล่าวเสริม
"พันธมิตรทั้งสองชาติยังวางแผนที่จะจัดการซ้อมรบครั้งใหม่ในทะเลจีนใต้ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งรวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วย" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคาร หลังจากการประชุมร่วมกับกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์และแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
การฝึกนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นการแสดงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรในเอเชีย ท่ามกลางความอหังการที่เพิ่มขึ้นของจีน
ตามข้อตกลงใหม่ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพสหรัฐฯได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานทัพในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงฐานทัพที่อยู่ใกล้ไต้หวันด้วย ซึ่งนั่นเป็นประเด็นที่สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับรัฐบาลจีน
"ข้อเท็จจริงสำคัญกว่าคำพูด เมื่อพิจารณาจากที่ตั้งของฐานทัพใหม่แล้ว เจตนาที่แท้จริงเบื้องหลังที่ตั้งเหล่านั้นชัดเจนยิ่งกว่า" หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ
เขาประกาศว่า "เราขอเตือนประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคนี้อีกครั้งว่า การยอมร่วมมือกับกองกำลังนอกภูมิภาคจะไม่นำมาซึ่งความมั่นคงมากขึ้น แต่จะทำให้เกิดความตึงเครียด, ทำให้สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคตกอยู่ในความเสี่ยง และส่งผลย้อนกลับในท้ายที่สุด"
การซ้อมรบบาลิกาตันจะใช้เฮลิคอปเตอร์ทหารลงจอดบนเกาะหนึ่งทางเหนือสุดของเกาะลูซอน อันเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวันราว 300 กิโลเมตร และกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกซ้อมบุกขึ้นอีกเกาะ
นี่จะเป็นครั้งแรกที่มีการฝึกซ้อมภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งมีแผนจะมาร่วมสังเกตการณ์การฝึกยิงทำลายเรือรบในวันที่ 26 เมษายน.
