การรั่วไหลของข้อมูลเผยให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของกองทัพยูเครน ความสูญเสียและสถานการณ์วิกฤตในการป้องกันภัยทางอากาศ นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับสร้างและจัดวางกองพลเพื่อตอบโต้กองทัพรัสเซียอีกด้วย
เอกสารภาพถ่ายทั้งชุดปรากฏขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเปิดเผยรายละเอียดซ่อนเร้นเกี่ยวกับสงครามในยูเครน และยังแสดงให้เห็นว่าแผนการทางทหารของเคียฟนั้นตะวันตกมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง ความถูกต้องของเอกสารไม่สามารถพิสูจน์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ความตื่นเต้นเกี่ยวกับการรั่วไหลดูจะชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องตลกปลอม อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่าข้อความบางส่วนถูกเปลี่ยนโดยหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย การรั่วไหลครั้งนี้จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อยูเครนและสหรัฐฯ นอกจากนี้เอกสารยังเผยให้เห็นว่า สหรัฐฯ ยังคงสอดแนมพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนนี้ถูกเผยแพร่ไปในวงกว้าง
เอกสารภาพถ่ายเป็นภาพกองทัพทั้งสองฝ่ายถูกทำลายล้าง มีการเปิดเผยสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับกองทัพยูเครนที่ไม่ควรมีใครล่วงรู้ เริ่มต้นด้วยการสูญเสีย การสูญเสียของรัสเซียจนถึงเดือนกุมภาพันธ์อยู่ในระดับสูง แต่ก็อยู่ในกรอบที่คาดไว้ จำนวนทหารมีอยู่ราว 189,500 ถึง 223,000 นาย ในจำนวนนั้นเสียชีวิตมากถึง 43,000 นาย แต่ยูเครนต้องแบกรับเหยื่อสงคราม 124,500 ถึง 131,000 คน ในจำนวนนี้มีเสียชีวิตไป 17,500 คน ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจากการประเมินของสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียกองกำลังส่วนใหญ่ที่ประจำการอยู่เดิม
ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2022 ขีปนาวุธสำหรับระบบ S-300 น่าจะถูกใช้จนหมด ซึ่งส่งผลให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ในการป้องกันทางอากาศเชิงยุทธศาสตร์ นั่นเพราะตะวันตกส่งมอบระบบน้อยเกินไปที่จะใช้ทดแทน S-300 หากไม่มีการป้องกันทางอากาศ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์หลายแห่งในยูเครนก็จะไม่ได้รับการปกป้อง นอกจากนี้รัสเซียได้ปรับปรุงขีดความสามารถในการสู้รบทางอากาศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย พวกเขาประสบความสำเร็จในการแปลงระเบิดแบบ Free-Fall แบบเก่าให้เป็นระเบิดแบบร่อนด้วยระบบนำทาง GPS สามารถปล่อยออกไปได้ไกลจากเป้าหมาย และเข้าเป้าอย่างแม่นยำ
แผนการโจมตีตอบโต้ยูเครนที่คาดไว้ก็รั่วไหลเช่นกัน แต่ในเอกสารไม่มีคำสั่งปฏิบัติการอย่างละเอียด จากข้อมูลที่รั่วไหลเผยว่าเคียฟได้จัดตั้งกองพลใหม่ 12 กองพล หนึ่งกองพลของยูเครนประกอบด้วยทหารประมาณ 4,000 นาย 9 กองพลได้รับการฝึกโดยโค้ชจากตะวันตกจนถึง 31 มีนาคม กองพลที่เหลือจะได้รับการฝึกจนจบหลักสูตรภายใน 30 เมษายน ข้อมูลยังระบุอีกว่ายูเครนมีรถถังต่อสู้หลักมากกว่า 250 คัน และยานเกราะบรรทุกกำลังพลมากกว่า 350 คัน พวกเขาเป็นแกนหลักในเกมรุกของยูเครน
เอกสารดังกล่าวไม่มีแผนการโจมตีโดยละเอียดในระดับยุทธวิธี แต่ถึงกระนั้นก็มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับรัสเซียเกี่ยวกับสภาพกองกำลังของยูเครนและการขาดแคลนกระสุน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีข้อมูลเกี่ยวกับคำเตือนแบบเรียลไทม์ของสหรัฐฯ เรื่องการโจมตีของรัสเซีย และคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับการใช้เครื่องยิง HIMARS
การโจมตีของรัสเซียในช่วงฤดูหนาวไม่ประสบความสำเร็จในหลายพื้นที่ แถมยังได้รับความสูญเสียหนักอีกด้วย สถานการณ์รอบบัคมูตยังคงวิกฤต รัสเซียล้มเหลวในการยึดพื้นที่ดอนบาสทั้งหมด การตอบโต้ของยูเครนคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากพ้นช่วงโคลนตม ซึ่งกรอบเวลาจะสอดรับกับระยะเวลาการฝึกของกองกำลังพลใหม่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ยูเครนจะใช้กองกำลังติดอาวุธเข้าไปในดอนบาส ที่มีป้อมปราการ แต่อาจจะพยายามบุกทะลวงข้ามพื้นที่เปิดไปยังทะเลดำ ทหารรัสเซียปักหลักรออยู่ที่นั่นมานานหลายเดือนแล้ว และกำลังสร้างป้อมปราการเพื่อสกัดการรุกคืบที่คาดไว้ รวมถึงสนามเพลาะ ทุ่นระเบิด และสิ่งกีดขวางต่อต้านรถถัง รวมถึงจุดเสริมที่เป็น ‘เขตมรณะ’ สำหรับกองกำลังที่บุกเข้าไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โวโลดิมีร์ เซเลนสกี' ครุ่นคิดถึงบทสิ้นสุดของสงครามในปีหน้า
ที่นิวยอร์ก โวโลดิมีร์ เซเลนสกีเรียกร้องให้ตะวันตกสนับสนุนยูเครนเพิ่มเติม และสัญญาว่าจะยุติสงครามก่อนกำหนด โดยจะ
สงครามในยูเครนสร้างความเสียหายต่อสภาพภูมิอากาศโลกแค่ไหน?
ความขัดแย้งทางทหารและกองกำลังติดอาวุธเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่ใหญ่ที่สุด กลุ่ม Scientists f
'เซเลนสกี' สั่งปลดที่ปรึกษาออกหลายคน
ช่วงที่ผ่านมา ประธานาธิบดียูเครนได้เปลี่ยนที่ปรึกษาหลายครั้ง สื่อคาดว่าจะมีการปรับรัฐบาลเร็วๆ นี้ ในขณะที่ วิตาลี คลิตช์โก
'เซเลนสกี' ชี้หนังสารคดีรางวัลออสการ์แสดงให้เห็นถึงการก่อการร้ายของรัสเซีย
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน แสดงความยินดีกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ’20 Days in Mariupol’ ที่ได้รับรางวัลออสการ์