ประชากรเสือในป่าอินเดียเกิน3,000ตัว

ข้อมูลสำรวจสำมะโนประชากรเสือโคร่งของอินเดียที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์พบว่า ขณะนี้อินเดียมีเสือโคร่งในป่า 3,167 ตัว เพิ่มจากครั้งล่าสุดที่เคยสำรวจพบเสือโคร่ง 2,967 ตัว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566 เสือโคร่งซึ่งเป็นสัตว์วงศ์เดียวกับแมวที่ตัวใหญ่ที่สุด ครั้งหนึ่งเคยพบพวกมันอาศัยอยู่ทั่วในเอเชียกลาง, เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้

จากข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ประชากรเสือโคร่งลดลงไปมากกว่าร้อยละ 93 ปัจจุบันเหลือเสือโคร่งกระจัดกระจายอยู่ใน 13 ประเทศ

การสำรวจสำมะโนประชากรเสือโคร่งของอินเดียที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ พบเสือโคร่งทั่วประเทศ 3,167 ตัว เพิ่มจากการสำรวจครั้งล่าสุดที่พบประชากรเสือโคร่ง 2,967 ตัว

การสำรวจสำมะโนประชากรเสือโคร่งของอินเดียดำเนินการทุก 4 ปี โดยติดตั้งกล้องดักจับภาพของเสือและใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อจำแนกสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด

อัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรเสือโคร่งชะลอตัวลงเหลือน้อยกว่าร้อยละ 7 ในช่วงการสำรวจครั้งล่าสุด โดยลดลงจากมากกว่าร้อยละ 30 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

แต่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ระบุจำนวนเสือโคร่งในป่าล่าสุดนี้นับเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจ

โมดีกล่าวระหว่างพิธีที่เมืองไมสูรุในรัฐกรณาฏกะทางตอนใต้ของประเทศว่า ครอบครัวเสือโคร่งของเรากำลังขยายใหญ่ขึ้น นี่เป็นเรื่องของความภาคภูมิใจ ไม่เพียงแต่สำหรับอินเดียเท่านั้น แต่สำหรับทั้งโลก

การตัดไม้ทำลายป่า, การลักลอบล่าสัตว์ป่าและการบุกรุกป่าเพื่อต้องการที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ทำให้ประชากรเสือโคร่งทั่วเอเชียลดลงไปมาก แต่โมดีกล่าวว่า อินเดียสามารถเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่งด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนและวัฒนธรรมการอนุรักษ์ของอินเดีย

โมดีบอกว่า ปัจจุบันอินเดียเป็นถิ่นที่อยู่ของเสือโคร่งทั่วโลกถึงร้อยละ 75 และเป็นประเทศที่มีเสือโคร่งมากที่สุดในโลก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทรูวิชั่นส์' ชวนเปิดประตูสู่ดินแดนภารตะใน 'ADVENTURE BY ACCIDENT S2'

ความสนุกของการเดินทางกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง กับรายการท่องเที่ยวแสนโด่งดังจากประเทศเกาหลีใต้ ที่เพิ่งคว้ารางวัลรายการบันเทิงยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัล The 60th Baeksang Arts Award 2024 ตอนนี้ได้เดินทางมาถึง Season ที่ 2 แล้ว สำหรับ “ADVENTURE BY ACCIDENT S2”