นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นลัดฟ้าเยือนยูเครนอย่างกระทันหัน เพื่อร่วมหารือกับเซเลนสกีในฐานะประธานกลุ่มจี7
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น (คนที่ 2 จากซ้าย) เยี่ยมชมหลุมฝังศพขนาดใหญ่ที่พบในบริเวณโบสถ์ Saint Andrew Pervozvannoho All Saints ในเมืองบูชา ระหว่างการเดินทางเยือนยูเครน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม (Photo by Sergei CHUZAVKOV / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เปลี่ยนกำหนดการภารกิจต่างประเทศของตัวเองด้วยการบินลัดฟ้าออกจากอินเดียมุ่งหน้าสู่โปแลนด์ และต่อรถไฟไปยังกรุงเคียฟของยูเครน เพื่อเข้าพบประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี
หลังเดินทางถึงกรุงเคียฟ คิชิดะได้เดินทางต่อไปยังเมืองบูชา เพื่อเยี่ยมชมหลุมฝังศพขนาดใหญ่ที่พบในบริเวณโบสถ์ Saint Andrew Pervozvannoho All Saints และร่วมวางดอกไม้สักการะดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตจากสงครามกับรัสเซีย
ทั้งนี้ กองทหารรัสเซียถูกกล่าวหาว่าสังหารหมู่พลเรือนในเขตชานเมืองบูชาซึ่งพวกเขายึดครองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ในช่วงต้นปี 2565 และเป็นที่มาของหลุมฝังศพขนาดใหญ่ที่พบข้างโบสถ์ดังกล่าว แต่รัฐบาลมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาและอ้างว่าการกระทำอย่างโหดร้ายในบูชาเป็นการจัดฉาก
ผู้นำญี่ปุ่นถูกลือก่อนหน้านี้ว่าอาจจะเดินทางเยือนยูเครนนอกหมายกำหนดการ และท้ายที่สุดเขาก็มาปรากฏตัวในยูเครนจริงๆ โดยการมาครั้งนี้ถือเป็นการเยือนครั้งแรกของคิชิดะ เพื่อเข้าพบปะหารือกับผู้นำยูเครนในฐานะประธานกลุ่มจี7
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนยกย่องการมาเยือนของคิชิดะ โดยเอมีน จาปาโรวา รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ กล่าวว่า "การเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นสัญญาณของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างยูเครนและญี่ปุ่น เรารู้สึกขอบคุณญี่ปุ่นสำหรับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและมีส่วนสนับสนุนชัยชนะในอนาคตของเรา"
ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด จี7 ในเดือนพฤษภาคมนี้ และคิชิดะเป็นผู้นำของชาติสมาชิก จี7 คนสุดท้ายที่เดินทางเยือนยูเครน โดยญี่ปุ่นเข้าร่วมกับพันธมิตรตะวันตกในการคว่ำบาตรรัสเซียจากการรุกรานยูเครน ขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุนรัฐบาลเคียฟ
การเดินทางเยือนยูเครนอย่างกระทันหันของคิชิดะเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนอยู่ในมอสโกและหารือขั้นสูงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในประเด็นความขัดแย้งกับยูเครน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เซเลนสกี' รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 51 คนจากการโจมตีของรัสเซียที่เมืองโปลตาวา
ตามรายงานของแหล่งข่าวในยูเครน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 รายจากการโจมตีของรัสเซียที่เมืองโปลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน