ฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ จะจัดการซ้อมรบร่วมทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดในเดือนหน้า เพื่อจับมือตอบโต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาค
บรรดาทหารจากกองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ร่วมคล้องแขนถ่ายรูประหว่างการซ้อมรบร่วมที่ป้อมแมกไซไซในจังหวัดนวยบา เอซีจา ทางเหนือของกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม (Photo by Ted ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 กล่าวว่า ทหารฟิลิปปินส์และสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 17,680 นายจะเข้าร่วมการซ้อมรบประจำปี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมีการซ้อมรบด้วยการยิงกระสุนจริงในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท และจำลองการซ้อมป้องกันเกาะขนาดเล็กแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่อยู่ห่างจากไต้หวันไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร
ทหารทั้งสองชาติจะยกพลขึ้นเกาะปาลาวันทางตะวันตกในรูปแบบสะเทินน้ำสะเทินบก โดยเกาะดังกล่าวเป็นแผ่นดินที่อยู่ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีของฟิลิปปินส์มากที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่พิพาทระหว่างรัฐบาลปักกิ่งและรัฐบาลมะนิลา
การประกาศซ้อมรบดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากรัฐบาลมะนิลาและรัฐบาลวอชิงตันเห็นพ้องที่จะเริ่มลาดตระเวนร่วมในทะเลจีนใต้อีกครั้ง และบรรลุข้อตกลงให้ทหารสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงฐานทัพอีก 4 แห่งของฟิลิปปินส์ได้
ความอหังการที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีต่อไต้หวัน รวมถึงการสร้างฐานทัพในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นใหม่ต่อสหรัฐอเมริกาและฟิลิปปินส์ในการกระชับความเป็นหุ้นส่วน ภายใต้การสนับสนุนโดยสนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน
การฝึกซ้อมร่วมทางทหารครั้งใหญ่ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-28 เมษายน จะมีทหารอเมริกันเข้าร่วมมากกว่า 12,000 นาย, ทหารฟิลิปปินส์เกือบ 5,000 นาย และทหารออสเตรเลีย 111 นาย ซึ่งเพิ่มจำนวนมากเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว
"กองกำลังติดอาวุธใดๆ ก็ตามมีสิทธิ์ที่จะฝึกซ้อมทางทหาร อันเป็นส่วนหนึ่งของความพร้อมรบจริง" พันเอกไมเคิล ลอจิโก เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์กล่าว
หนึ่งในการฝึกซ้อมคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการลงจอดเฮลิคอปเตอร์ของทหารบนเกาะคากายัน บริเวณเหนือสุดของเกาะลูซอน การฝึกซ้อมป้องกันทางทะเลและชายฝั่งในครั้งก่อนๆเคยจัดขึ้นมาแล้ว แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นที่เกาะคากายัน
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เรือฟริเกตของกองทัพเรือฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ จะยิงกระสุนจริงไปยังทะเลจีนใต้จากน่านน้ำนอกจังหวัดซัมบาเลส ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ โดยก่อนหน้านี้การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงจัดขึ้นบนบกเท่านั้น
ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯจะใช้ขีปนาวุธแพทริออต ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ดีที่สุดในโลกและระบบจรวดที่มีความแม่นยำ HIMARS ในระหว่างการฝึกซ้อมดังกล่าว
ด้านกองทหารออสเตรเลียที่เข้าร่วม จะได้ฝึกซ้อมเฉพาะประเภทปฏิบัติการพิเศษเป็นหลัก และรัฐบาลญี่ปุ่นจะส่งคณะผู้แทนมาร่วมสังเกตการณ์การฝึกด้วยเช่นกัน.