ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามสร้างความเชื่อมั่นด้วยการกล่าวแถลงการณ์รับรองความยืดหยุ่นของระบบธนาคารของสหรัฐฯ หลังทั่วโลกหวั่นว่าจะล้มเป็นโดมิโน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวแถลงการณ์เกี่ยวกับระบบธนาคารท่ามกลางสถานการณ์การล่มสลายของธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ห้องรูสเวลต์ของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 13 มีนาคม (Photo by SAUL LOEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2566 กล่าวว่า หลังการล้มละลายของธนาคารซิลิคอนวัลเลย์และการถูกสั่งปิดของธนาคารซิกเนเจอร์ในสหรัฐอเมริกา สร้างความหวาดหวั่นให้กับระบบธนาคารทั่วโลก เพราะกังวลว่าธนาคารอื่นๆจะได้รับผลกระทบแบบโดมิโน
ทั้งนี้ ธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ (SVB) ซึ่งเป็นสถาบันเงินฝากและผู้ให้กู้รายสำคัญแก่บริษัทสตาร์ทอัพทั่วสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงปี 2523 ทรุดตัวลงกระทันหันจากการขาดสภาพคล่องจนหน่วยงานกำกับดูแลเข้าควบคุมกิจการในวันศุกร์ ขณะที่ธนาคารซิกเนเจอร์ซึ่งเป็นสถาบันการเงินหลักที่ปล่อยกู้ให้แก่อุตสาหกรรมสินทรัพย์คริปโต ก็ถูกสั่งปิดตามในอีก 2 วันถัดมา
ในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันอาทิตย์ ธนาคารกลางสหรัฐ, บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) และกระทรวงการคลังฯยืนยันว่า ผู้ฝากจะสามารถเข้าถึงเงินทั้งหมดของพวกเขาได้ตั้งแต่วันจันทร์และจะไม่มีการนำเงินภาษีของชาวอเมริกันมาแบกรับความเสียหายที่เกิดขึ้น
ไบเดนเริ่มกล่าวแถลงการณ์ในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ (20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เกี่ยวกับการปกป้องระบบธนาคารของสหรัฐฯ หลังเกิดประเด็นธนาคารขนาดใหญ่ล้มละลาย
"ชาวอเมริกันสามารถมั่นใจได้ว่าระบบธนาคารของประเทศนั้นปลอดภัย และเงินฝากของพวกคุณจะอยู่ที่นั่นเมื่อคุณต้องการ" ไบเดนกล่าวผ่านทางโทรทัศน์จากทำเนียบขาว
"ประชาชนผู้เสียภาษีของสหรัฐฯจะไม่ต้องรับผิดชอบการช่วยเหลือผู้ฝากเงินของธนาคารที่ถูกสั่งปิดกิจการ เพราะมีหน่วยงานที่รับประกันเงินฝากดังกล่าวเป็นผู้ดูแล และขอให้มั่นใจได้ว่าวิกฤตกังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม"
"ผมจะขอให้สภาคองเกรสและหน่วยงานกำกับดูแลการธนาคารเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกฎระเบียบของธนาคาร เพื่อลดโอกาสที่ความล้มเหลวของธนาคารแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต" ไบเดนกล่าวเสริม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โจ ไบเดน เลื่อนการเดินทางเยือนเยอรมนี เหตุเพราะพายุเฮอร์ริเคน ‘มิลตัน’
เดิมทีมีแผนจะหารือเกี่ยวกับยูเครนและตะวันออกกลาง ทว่าพายุเฮอร์ริเคนเข้ามาขวางทางเสียก่อน เป็นเหตุให้ประธ