เกาหลีใต้ประกาศแผนการชดเชยเหยื่อที่ถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วงสงคราม โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติความบาดหมางในความสัมพันธ์ของสองมหาอำนาจเอเชีย และเพิ่มความสัมพันธ์เพื่อรับมือเกาหลีเหนือ
ปาร์ค จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวในการบรรยายสรุปแผนชดเชยแก่เหยื่อที่ถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วงการยึดครองคาบสมุทรเกาหลีระหว่างปี 2453-2488 ที่กระทรวงต่างประเทศในกรุงโซล เมื่อวันที่ 6 มีนาคม (Photo by KIM HONG-JI / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2566 กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศแผนชดเชยแก่เหยื่อ(ชาวเกาหลี)ที่ถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วงสงคราม เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชน และยุติความบาดหมางทางความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ
ชาวเกาหลีประมาณ 780,000 คนถูกเกณฑ์ไปเป็นแรงงานโดยจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงยึดครองประเทศนานกว่า 35 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลโซล แต่ตัวเลขนี้ยังไม่รวมการบังคับผู้หญิงเกาหลีให้เป็นทาสทางเพศโดยกองทหารญี่ปุ่น
ปาร์ค จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวในการแถลงว่า แผนของรัฐบาลฯคือการรับเงินจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ที่ได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการชดใช้ค่าเสียหายกับรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อปี 2508 และนำเงินเหล่านั้นมาชดเชยให้เหยื่อและครอบครัวของพวกเขา
เขากล่าวเสริมว่า "เกาหลีใต้หวังว่าญี่ปุ่นจะตอบสนองเชิงบวกต่อการตัดสินใจครั้งสำคัญของเราในวันนี้ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มใจและกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการ"
"ผมเชื่อว่าวงจรแห่งความบาดหมางควรถูกทำลายเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ" ปาร์คกล่าวทิ้งท้าย
พร้อมกันนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวเพิ่มเติมภายหลังอีกว่า จะระงับการร้องเรียนญี่ปุ่นต่อองค์การการค้าโลก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายวางแผนเจรจาเกี่ยวกับข้อพิพาททางเศรษฐกิจที่เกิดจากประเด็นนี้
ความสัมพันธ์โซล-โตเกียวตึงเครียดมานานจากการปกครองคาบสมุทรเกาหลีในยุคอาณานิคมอันโหดร้ายของจักรวรรดิญี่ปุ่นระหว่างปี 2453-2488 โดยทั้งสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับขอบเขตการชดเชยและคำขอโทษ
ทั้งสองชาติโจมตีกันไปมาด้วยการใช้มาตรการกีดดันทางเศรษฐกิจ และเริ่มมีความสัมพันธ์แย่ลงหลังศาลฎีกาเกาหลีใต้สั่งให้บริษัทญี่ปุ่นบางแห่งจ่ายเงินชดเชยให้เหยื่อแรงงานในปี 2561 ซึ่งทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่พอใจอย่างมาก
ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ออกมาแสดงความยินดีกับการประกาศดังกล่าวทันที โดยโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แผนชดเชยของรัฐบาลเกาหลีใต้จะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ของสองชาติให้ดีขึ้น
ฮายาชิย้ำว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงยึดมั่นตามคำประกาศเมื่อปี 2541 ซึ่งรวมถึงคำขอโทษด้วย
ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันเชื่อมั่นว่าแผนชดเชยดังกล่าวจะทำให้สองชาติร่วมมือกันมากขึ้นในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ ตามถ้อยแถลงของทำเนียบขาว
ในระยะหลัง รัฐบาลโซลและโตเกียวได้เพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงหลังเผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือของคิมจองอึน ซึ่งกำลังขยายโครงการอาวุธนิวเคลียร์เพื่อต่อต้านการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม การประกาศแผนดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงจากกลุ่มเหยื่อที่ระบุว่า พวกเขาต้องการทั้งค่าชดเชยโดยตรงจากบริษัทญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้อง และคำขอโทษเต็มรูปแบบจากรัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมปฏิเสธการรับเงินจากรัฐบาลของตนเพื่อให้จบความบาดหมางอันยาวนาน.