รัฐสภาอียูห้ามเจ้าหน้าที่ใช้'ติ๊กต็อก'

รัฐสภายุโรปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ลบแอปพลิเคชัน "TikToK" ออกจากอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานทุกชิ้น เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการปกป้องข้อมูลของอุปกรณ์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันนี้

            สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธที่ 1 มีนาคม  2566 ว่า จดหมายที่รัฐสภายุโรปส่งถึงพนักงานทุกคนเมื่อวันอังคารระบุว่า โรเบอร์ตา เมตโซลา ประธานรัฐสภายุโรป และอเลสซานโดร ชิออกเช็ตติ เลขาธิการรัฐสภายุโรป ตัดสินใจว่าจะต้องไม่ใช้หรือติดตั้งแอปพลิเคชันติ๊กต็อกบนอุปกรณ์ของพนักงานที่ใช้ทำงาน เช่น โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ตั้งแต่วันที่ 20  มีนาคม

            ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและสนับสนุนเทคโนโลยีของรัฐสภายุโรป กล่าวในจดหมายถึงพนักงานของรัฐสภายุโรปราว 8,000 คนว่า ในวันนี้การเข้าถึงแอปพลิเคชันติ๊กต็อกผ่านเครือข่ายของรัฐสภายุโรปจะถูกบล็อกด้วย และแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้สมาชิกรัฐสภายุโรปและเจ้าหน้าที่ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันติ๊กต็อกจากอุปกรณ์การสื่อสารส่วนตัว

            คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) และคณะมนตรียุโรปที่เป็นตัวแทนของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ชาติ มีคำสั่งในลักษณะเดียวกันนี้กับแอปพลิเคชันติ๊กต็อกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากมีความกลัวเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์

            ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อกระบุว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวเป็นการชี้นำที่ผิดบนพื้นฐานของการเข้าใจผิดและเรียกร้องให้มีกระบวนการที่ชอบธรรมและปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และเสริมว่าการตัดสินใจดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของความกลัวมากกว่าข้อเท็จจริง

            แม้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางติ๊กต็อกจะยอมรับว่ามีพนักงานบางคนของบริษัทในจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ติ๊กต็อกในทวีปยุโรปก็ตาม แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วติ๊กต็อกยืนยันว่า มีการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้แอปพลิเคชันนี้ที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งมีผู้ใช้เดือนละราว  125 ล้านบัญชี

            เมื่อวันจันทร์ ทำเนียบขาวมีคำสั่งให้เวลาหน่วยงานของรัฐบาลกลาง 30 วัน ถอดแอปพลิเคชันติ๊กต็อกจากอุปกรณ์ที่หน่วยงานใช้ทั้่งหมด หลังจากสภาคองเกรสมีคำสั่งห้ามหน่วยงานของรัฐบาลใช้แอปพลิเคชันนี้เมื่อปลายปีที่แล้ว ในวันเดียวกันรัฐบาลแคนาดาก็มีคำสั่งแบนติ๊กต็อกเช่นกัน.    

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'การปรับเปลี่ยนเวลา' ปัญหาเรื้อรังของผู้คนและรัฐสภายุโรป

ตั้งแต่ตอนดึกของวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มประเทศในยุโรปต้องหมุนเข็มนาฬิกาปรับเวลาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง เพื่อใช้เวลาฤดูร้อน (ซึ่งจะช้ากว่าเวลาในเมืองไทย 5 ชั่วโมง จ