ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุระหว่างแถลงนโยบายประจำปีเมื่อวันอังคารว่า เขาระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียในสนธิสัญญาลดการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ที่รัสเซียทำไว้กับสหรัฐอเมริกา และกล่าวหาชาติตะวันตกว่าทำให้ความขัดแย้งในยูเครนเลวร้ายลง
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงนโยบายประจำปีในกรุงมอสโก เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ต่อสมาชิกรัฐสภาและนายทหารระดับสูงของรัสเซีย ก่อนหน้าไม่กี่วันที่จะครบรอบ 1 ปี ที่ทหารรัสเซียเริ่มบุกเข้าไปในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
ปูตินกล่าวหามหาอำนาจชาติตะวันตกว่าต้องการจำกัดรัสเซียให้หมดสิ้น และรัสเซียถูกบังคับให้ระงับการมีส่วนร่วมในสนธิสัญญา "นิวสตาร์ต" ซึ่งเป็นสนธิสัญญาจำกัดการครอบครองหัวรบนิวเคลียร์ที่รัสเซียมีข้อตกลงไว้กับสหรัฐ แต่บอกว่าจะไม่ถอนตัวจากข้อตกลงทั้งหมด
ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า บางคนในกรุงวอชิงตันกำลังคิดเรื่องกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง ดังนั้นกระทรวงกลาโหมของรัสเซียและบริษัทนิวเคลียร์ของรัสเซียควรที่จะพร้อมทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียถ้ามีความจำเป็น
ปูตินระบุแน่นอนว่าเราจะไม่เริ่มทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ก่อน แต่ถ้าสหรัฐอเมริกาดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เราจะทำเช่นกัน ไม่ควรมีภาพลวงตาที่อันตรายที่ว่าความเสมอภาคทางยุทธศาสตร์ของโลกสามารถถูกทำลายได้
สนธิสัญญานิวสตาร์ตเป็นสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์สำคัญล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาทำข้อตกลงกับรัสเซียในปี 2553 ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2569 แม้จะล้มเหลวในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทั้งสหรัฐและรัสเซียต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญานี้
สนธิสัญญานิวสตาร์ตจำกัดให้ทั้งสหรัฐและรัสเซียครอบครองหัวรบนิวเคลียร์ไม่เกิน 1,550 หัวรบ สำหรับขีปนาวุธข้ามทวีป, ขีปนาวุธประจำเรือดำน้ำและเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก ทั้ง 2 ชาติบรรลุข้อจำกัดกลางนี้ในปี 2561
ปูตินกล่าวถึงสงครามในยูเครนที่เขาเรียกว่าความขัดแย้งในยูเครนว่า เราจะแก้ป้ญหาที่เผชิญหน้าอยู่อย่างระมัดระวังและเป็นระบบ โดยทำทีละขั้นตอน และย้ำว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะชนะรัสเซียในสมรภูมินี้
ปูตินกล่าวว่า ชนชั้นนำชาติตะวันตกจะต้องรับผิดชอบกับการเติมเชื้อเพลิงกับความขัดแย้งในยูเครน, ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งเลวร้ายลงและเพิ่มจำนวนเหยื่อของสงคราม
ผู้นำรัสเซียเตือนชาวรัสเซียที่วิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนว่า ผู้ที่เดินในเส้นทางแห่งการทรยศรัสเซีย จะต้องโดนลงโทษภายใต้กฎหมาย
สำหรับด้านเศรษฐกิจ ปูตินบอกว่าการคว่่ำบาตรของชาติตะวันตกกับรัสเซียไม่ประสบความสำเร็จและจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ อันที่จริงการคว่ำบาตรดังกล่าวทำร้ายชาติตะวันตกเอง เนื่องจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจของรัสเซียพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายืดหยุ่นมากกว่าที่ชาติตะวันตกคาดการณ์ไว้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดี๋ยวรักเดี๋ยวชังในสัมพันธภาพระหว่าง 'รัสเซีย' และ 'จีน'
ในช่วงสงครามเย็น ทั้งสองประเทศเคยยืนหยัดต่อสู้ที่เส้นพรมแดนเดียวกัน ก่อนจะหมางเมินกัน จนมาถึงตอนนี้รัสเซียและจีนได้กลายเป็นหุ้นส่วนทาง
“ปูติน” ไม่มา-สี จิ้นผิง ไม่พลาด คุมเข้มสกัดป่วน-คุ้มกันผู้นำเอเปก
นับถอยหลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สำหรับการเป็นจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก