คู่แม่ลูกรอดตายหลังติดใต้ซากนาน 5 วัน ขณะที่ยอดเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใกล้แตะ 24,000 ราย

หน่วยกู้ภัยช่วยแม่และเด็กออกมาจากซากปรักหักพังได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังเข้าสู่วันที่ 5 ของภัยพิบัติแผ่นดินไหวในตุรเคีย-ซีเรีย ขณะที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตเข้าใกล้ 24,000 ราย และฤดูหนาวที่เยียบเย็นได้เพิ่มความทุกข์ยากให้กับผู้คนเกือบ 1 ล้านคนที่ต้องการอาหารอย่างเร่งด่วน

หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งที่ถูกหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือออกมาจากซากปรักหักพัง หลังติดอยู่นานกว่า 115 ชั่วโมง พร้อมลูกสาววัย 6 ขวบ ในเขตนูร์ดากี ของเมืองกาเซียนเท็ป ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรเคีย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ (Photo by BULENT KILIC / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า เข้าสู่วันที่ห้าของภัยพิบัติใหญ่จากแผ่นดินไหวในตุรเคียและซีเรีย หลายๆเมืองยังคงเต็มไปด้วยเศษซากความเสียหายของอาคารบ้านเรือน และกลิ่นแห่งความตายที่คละคลุ้งไปทั่ว

ยอดรวมผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 23,766 ราย แบ่งเป็น 20,213 รายในตุรเคีย และ 3,553 รายในซีเรีย

แม้พายุฤดูหนาวจะโหมกระหน่ำทั่วภูมิภาค แต่การระดมความช่วยเหลือสาธารณภัยจากทั้งในประเทศและจากนานาชาติ ยังคงดำเนินต่อไปนานกว่า 100 ชั่วโมง ภายหลังแรงสั่นสะเทือนใหญ่ครั้งเดียวทำให้ทุกอย่างพังราบเป็นหน้ากลอง

เมื่อวันศุกร์ ปาฏิหาริย์ของการรอดชีวิตเกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งที่ถูกดึงออกมาจากซากปรักหักพัง หลังติดอยู่นานกว่า 115 ชั่วโมง ในเขตนูร์ดากี ของเมืองกาเซียนเท็ป ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรเคีย ตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น

ยิ่งกว่านั้น ลูกสาววัย 6 ขวบของเธอก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากซากปรักหักพังด้วยเช่นกัน พร้อมนำส่งโรงพยาบาลทันที

องค์การสหประชาชาติเตือนว่า ขณะนี้ผู้คนอย่างน้อย 870,000 คนต้องการอาหารอย่างเร่งด่วนทั่วตุรเคียและซีเรีย โดยในซีเรียเพียงแห่งเดียว ผู้คนมากถึง 5.3 ล้านคน อาจกลายเป็นคนพลัดถิ่นเพราะไร้ที่อยู่อาศัย

หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีในซีเรีย เพื่อให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงเหยื่อแผ่นดินไหวทั้งหมดได้

ทั้งนี้ ประชาชน 4 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ยังคงต้องรอคอยความช่วยเหลือจากนานาชาติ เพราะความช่วยเหลือจากรัฐบาลซีเรียไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่เหล่านี้ได้ ซึ่งล่าสุด ขบวนความช่วยเหลือ 2 ขบวนจากเส้นทางผ่านตุรเคียได้เข้าสู่พื้นที่แล้ว ขณะที่ความต้องการด้านสาธารณสุขยังคงขาดแคลน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' เสียใจ 'คดีตากใบ' หมดอายุความ ขอให้เป็นบทเรียน ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น

'ภูมิธรรม' เสียใจคดีตากใบหมดอายุความ ย้ำเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่แล้ว ไม่มีปัญหากรณี UN แสดงความกังวลยืน ยันรัฐบาลไม่ได้ปล่อยให้คดีหมดอายุความ ขอให้เป็นบทเรียนนำไปศึกษาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น

กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 2 อากาศแปรปรวน 19-21 ต.ค. เปิดพื้นที่ฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 2 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 19 - 21 ตุลาคม 2567)

'ดร.ธรณ์' ดึงสติ ไม่ต้องตื่นตระหนกพายุลูกใหญ่ถล่ม หากมาจริงจะแจ้งล่วงหน้า

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

'นักวิชาการ' เผยระบบเตือนภัย J-Alert - L-Alert สุดยอดของญี่ปุ่นในการเตือนภัยเข้าถึงทุกที่

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับระบบเตือนภัย ว่า

นายกฯ ห่วงคนไทยในญี่ปุ่น ขอให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตือนชาวไทยที่อยู่ในพื้นที่ประเทศญี่ปุ่นให้ติดตามสถานการณ์ต่อกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ ที่กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ