เดินขบวนต้านรัฐบาลรอบใหม่ในเปรู ปะทะบาดเจ็บเกือบ 50 คน

มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 50 คนในเปรูจากการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างผู้บังคับใช้กฎหมายและผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลนอกบริเวณสนามบิน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุเดียวกับที่ผู้ประท้วง 18 รายเสียชีวิตเมื่อเดือนก่อน

ญาติและเพื่อนของผู้ประท้วงที่เสียชีวิตจากการปะทะกับตำรวจเปรู นำรูปภาพของบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาร่วมเดินขบวนเพื่อรำลึกครบรอบหนึ่งเดือนแห่งการเสียชีวิต ที่เมืองจูเลียกา ในภูมิภาคปูโนทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ (Photo by Juan Carlos CISNEROS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า ชาวเปรูหลายร้อยคนกลับมารวมตัวเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลครั้งใหม่ ในเมืองจูเลียกา ภูมิภาคปูโนทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพลเรือน 18 รายที่เสียชีวิตจากการปะทะเมื่อวันที่ 9 มกราคม

การเดินขบวนที่ปนเปไปด้วยการร้องไห้อย่างเศร้าโศก และตะโกนขับไล่รัฐบาลที่ได้รับการกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร เริ่มกลายเป็นความรุนแรงเมื่อผู้ประท้วงพยายามเข้าบุกไปในสนามบินอินคา มันโก คาปัคอีกครั้ง หลังการบุกรุกสนามบินครั้งก่อนทำให้มีผู้เสียชีวิต

หน่วยงานการแพทย์ท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ประท้วง 23 คนได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนั้นเป็นเยาวชน 3 คน โดยมีคนหนึ่งในนั้นได้รับบาดแผลจากการถูกยิงที่ขา

ขณะที่ฝั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงว่า มีเจ้าหน้าที่ 25 นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน

เปรูพัวพันกับวิกฤตการเมืองจากการเดินขบวนประท้วงของประชาชนเกือบทุกวัน นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ผู้นำคนก่อนถูกถอดถอนและจับกุมเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

กลุ่มผู้ประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเรียกร้องให้โบลูอาร์เตลาออกและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีกัสติโย ได้ก่อความวุ่นวาย, ใช้ความรุนแรง, รวมตัวปิดถนนทางหลวง และพยายามบุกรุกสถานที่สำคัญ พร้อมปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและตำรวจอยู่บ่อยครั้ง เป็นเหตุให้สูญเสียชีวิตผู้คนไปแล้วเกินครึ่งร้อย และกระตุ้นให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ซึ่งถูกโจมตีด้วยความรุนแรง

การเดินขบวนประท้วงล่าสุด นอกจากจะเกิดในเมืองจูเลียกาแล้ว ยังมีในเมืองอาเรกิปาทางตอนใต้เช่นกัน รวมทั้งการประท้วงในเมืองอยากูโช่ และปูไกปา

กลุ่มผู้ประท้วงในหลายเมืองได้ปิดกั้นถนนสายหลัก ทำให้การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นอัมพาต จนเกิดการขาดแคลนอาหาร, เชื้อเพลิง และสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ในหลายพื้นที่ของประเทศ

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ปัจจุบันถนนหลวงสายหลัก 62 สาย ยังคงถูกปิดกั้นจากกลุ่มผู้ประท้วง

ทั้งนี้ มีพลเรือนอย่างน้อย 47 รายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายเสียชีวิตทั่วประเทศจากการปะทะกันนับตั้งแต่การประท้วงเกิดขึ้น ตามรายงานของผู้ตรวจการแผ่นดินด้านสิทธิมนุษยชนของเปรู.

เพิ่มเพื่อน