ความช่วยเหลือจากนานาชาติมาถึงชิลีแล้ว เพื่อบรรเทาเหตุไฟป่า

ผู้เชี่ยวชาญจากหลายชาติเดินทางถึงชิลีเพื่อร่วมวางแผนหยุดยั้งไฟป่าอันบ้าคลั่ง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 26 ราย, บาดเจ็บหลายร้อยคน และทำลายบ้านเรือนกว่า 1,100 หลังในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

นักผจญเพลิงเตรียมบรรจุน้ำเข้าไปในเครื่องบินบรรทุกน้ำ DC-10 ที่สหรัฐอเมริกาส่งมาช่วยเหลือชิลีในปฏิบัติการดับไฟป่าครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ โดยเครื่องบินลำดังกล่าวจุน้ำได้ 36,000 ลิตร และสามารถปล่อยน้ำจากอากาศสู่พื้นดินไปยังพื้นที่ที่ไฟโหมกระหน่ำได้ (Photo by JAVIER TORRES / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า เหตุไฟป่าทางภาคใต้และภาคกลางของชิลียังคงดำเนินต่อไป โดยล่าสุดในวันจันทร์ ยังมีไฟโหมกระหน่ำอยู่ 280 แห่ง และกินพื้นที่ไปแล้วประมาณ 667,000 เอเคอร์ (2,700 ตารางกิโลเมตร) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่กว่าประเทศลักเซมเบิร์กทั้งประเทศเลยทีเดียว

สหรัฐอเมริกาส่งนักผจญเพลิงประมาณ 5,600 นาย พร้อมเครื่องบินบรรทุกน้ำ DC-10 ขนาด 36,000 ลิตร (9,500 แกลลอน) มาช่วยเหลือในปฏิบัติการดับไฟป่ารุนแรง 69 แห่ง

ขณะที่สเปนส่งเครื่องบินลำเลียงพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผจญเพลิง, ทหาร และนักบินโดรน 50 คน มาเพื่อช่วยเหลือ ส่วนอาร์เจนตินาจัดส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 60 นาย, รถบรรทุกน้ำ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และเม็กซิโกส่งผู้เชี่ยวชาญทางทหารและพลเรือน 150 คน

กระทรวงต่างประเทศของชิลีระบุเพิ่มเติมว่า เอกวาดอร์, โคลอมเบีย, เปรู, ปารากวัย, โปรตุเกส และเวเนซุเอลาได้ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือเช่นกัน

ทางการชิลีสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากวิกฤตไฟป่าที่ 25 ราย, บาดเจ็บ 1,260 คน และอีก 3,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย

ขณะที่หน่วยกู้ภัยแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 8 คน จากการปฏิบัติภารกิจ

ไฟป่าในชิลีกระจายลุกลามอยู่ในแคว้นอาเรากานีอา, นูเบิล และ บิโอบิโอ โดยสาเหตุมาจากความแห้งแล้งและอุณหภูมิอากาศที่แตะระดับ 40 องศา ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ.

เพิ่มเพื่อน