รัฐบาลเงาของเมียนมาประกาศเมื่อวันอังคารว่าสามารถระดมเงินได้ถึง 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 208.4 ล้านบาท จากการขายพันธบัตรวันแรกในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ สำหรับใช้เป็นทุนสนับสนุน "การปฏิวัติ" โค่นล้มระบอบทหาร
รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์และสื่อท้องถิ่นของเมียนมาเมื่อวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2564 อ้างคำกล่าวของตัวแทนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้าน จากการจับมือกันของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย, กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ และสมาชิกในรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี ที่โดนทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ว่าพันธบัตรที่เอ็นยูจีออกขายครั้งแรกเมื่อวันจันทร์เป็นพันธบัตรระยะ 2 ปี โดยส่วนใหญ่ขายให้แก่ชาวเมียนมาที่อยู่ต่างแดน มีมูลค่าตั้งแต่หน่วยละ 100 ดอลลาร์, 500 ดอลลาร์, 1,000 ดอลลาร์ และ 5,000 ดอลลาร์
เอ็นยูจีกล่าวว่า แม้ว่าพันธบัตรของพวกเขาจะไม่ก่อรายได้ที่เป็นดอกเบี้ยแก่ผู้ถือครอง แต่ใน 3 ชั่วโมงแรกก็สามารถขายได้ถึง 3 ล้านดอลลาร์ และภายในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ตั้งแต่ 14.00 น.ถึงเที่ยงคืนของวันจันทร์ ยอดขายพันธบัตรก็สูงถึง 6.3 ล้านดอลลาร์ รอยเตอร์กล่าวว่า เอ็นยูจีตั้งเป้าหมายโดยรวมไว้ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์
สำนักข่าวอิรวดีอ้างแถลงการณ์ของเอ็นยูจีที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์เสียงประชาชน (พีวี ทีวี) ของรัฐบาลเงา เมื่อเช้าวันอังคารว่า ความสนใจระดับสูงต่อการขายพันธบัตรของเอ็นยูจียิ่งเป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมว่า ความปรารถนาของประชาชนที่จะถอนรากถอนโคนเผด็จการนั้นมีมากมายมหาศาล
ดร. ซาซา โฆษกของเอ็นยูจี กล่าวในเฟซบุ๊กว่า จากสิ่งนี้ ตัวเขาได้ประจักษ์ถึงความกระตือรือร้นของประชาชนในการทำลายกองทัพฟาสซิสต์ให้สิ้นซาก
โฆษกของรัฐบาลเมียนมายังไม่มีปฏิกิริยาต่อคำประกาศของเอ็นยูจี รัฐบาลทหารประกาศให้เอ็นยูจีเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย โดยระบุว่าเป็นขบวนการ "ก่อการร้าย"
เอ็นยูจียังไม่ได้เปิดเผยว่าจะนำเงินกองทุนนี้ไปใช้อย่างไร พวกเขากล่าวว่า ผู้ซื้อพันธบัตรจ่ายเงินผ่านการทำธุรกรรมระหว่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารบัญชีหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก
พลเมืองเมียนมาวัย 27 ปี ที่ปฏิเสธการเปิดเผยตัวตนเนื่องจากห่วงความปลอดภัย บอกว่า เธอลงทุนซื้อพันธบัตรไป 500 ดอลลาร์ แต่ก็ไม่คาดหวังว่าจะได้เงินคืนหลังครบ 2 ปี "เราซื้อมันเพราะเราต้องการลงขันช่วยการปฏิวัติ" เธอกล่าวกับรอยเตอร์
กลุ่มฝ่ายค้านเมียนมาหวังขัดขวางความพยายามของกองทัพในการยึดกุมอำนาจ ด้วยการปลุกเร้าชาวเมียนมาอย่าได้จ่ายภาษี และให้เข้าร่วมการประท้วง, การรณรงค์อารยะขัดขืน และการคว่ำบาตรธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกองทัพและสลากกินแบ่งรัฐบาล
อู ทิน ทุน ไนง์ รัฐมนตรีด้านการวางแผน, การเงิน และการลงทุน ของเอ็นยูจี เรียกร้องชาวเมียนมาทั้งในประเทศและในต่างแดนให้เข้าร่วมการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อช่วยให้การปฏิวัติประสบชัยชนะ การซื้อพันธบัตรคือ 1 ใน 3 วิธีการ ที่จะมีส่วนร่วมในการปฏิวัติ นอกเหนือจากการซื้อสลากชิงโชคและจ่ายภาษีโดยสมัครใจแก่เอ็นยูจี
เงินสนับสนุนกิจกรรมต่อต้านระบอบทหารส่วนใหญ่ของเอ็นยูจี ซึ่งเริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนเมษายน มาจากเงินบริจาคของผู้สนับสนุน ถึงแม้ว่าเอ็นยูจีจะเริ่มการเก็บภาษีโดยสมัครใจอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม
หากไม่นับการใช้จ่ายทางทหาร เอ็นยูจีหวังว่าจะระดมเงินได้อย่างน้อย 800 ล้านดอลลาร์มาใช้สนับสนุนด้านสังคมและมนุษยธรรม รวมถึงการดูแลสุขภาพ, การศึกษา, สวัสดิการสังคม และเป็นเงินทุนสำหรับทหารและตำรวจที่แปรพักตร์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสนอชื่อ 'รบ.เงา-อารยะขัดขืนเมียนมา' ชิงโนเบลสันติภาพ
ผ่านเส้นตายการเสนอชื่อผู้ชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2565 เผยสมาชิกรัฐสภาและอาจารย์มหาวิทยาลัยในนอร์เวย์เสนอชื่อรัฐบาลเงาเมียนมาและขบวนการอารยะขัดขืนเข้าชิงด้วย บุคคลอื่นรวมถึงผู้นำฝ่ายค้านเบลารุส, โป๊ปฟรานซิส และเกรียตา ทุนแบร์ย
เมียนมาขู่จำคุกผู้ซื้อ 'พันธบัตรปฏิวัติ' ของรัฐบาลเงา
รัฐบาลเมียนมาขู่จะจับกุมพลเมืองที่ลงทุนในพันธบัตรออกโดยรัฐบาลเงา ระบุการซื้อพันธบัตรปฏิวัติถือเป็นการให้ทุนสนับสนุนผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะถูกลงโทษจำคุกนานหลายปี
'มิน อ่อง หล่าย'เหน็บอาเซียนดูด้วยฝ่ายไหนยั่วยุก่อความรุนแรง
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระบุรัฐบาลเมียนมายึดมั่นต่อการฟื้นฟูประชาธิปไตย ชี้อาเซียนควรพิจารณาการยั่วยุและความรุนแรงที่ฝ่ายค้านก่อขึ้นด้วย