สลด รถบัสนำเที่ยวไฟไหม้คลอก 46 ศพที่บัลแกเรีย

รถบัสพานักท่องเที่ยวหลายชาติจากนอร์ทมาซิโดเนียไปเที่ยวตุรกีขากลับ ประสบอุบัติเหตุไฟลุกท่วมบนทางหลวงในบัลแกเรียเมื่อเช้ามืดวันอังคาร คลอกคนบนรถเสียชีวิต 46 คน รวมถึงเด็กด้วย 12 คน

ซากรถบัสไหม้เกรียมหลังประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงใกล้หมู่บ้านบอสเน็กของบัลแกเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 46 คน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 (Getty Images)

รายงานเอเอฟพีอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทางการบัลแกเรียเมื่อวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ว่ายังไม่สามารถระบุสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า รถชนแผงกั้นไหล่ทางบนทางหลวงสายสตรูมา ใกล้หมู่บ้านบอสเน็ก ห่างจากกรุงโซเฟียทางตะวันตก 45 กม. เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันเดียวกัน (07.00 น.วันอังคารของไทย) ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ โดยไม่พบว่ามีรถยนต์คันอื่นเกี่ยวข้องด้วย

สตานิเมียร์ สตานอฟ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบัลแกเรีย เผยในเบื้องต้นว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิต 12 คนมีอายุไม่ถึง 18 ปี เขาบอกกับสถานี bTV ด้วยว่ามีคนเสียชีวิต 45 คน จาก 52 คนบนรถ

รายงานของ bTV กล่าวว่า รถบัสคันนี้เดินทางมาจากนครอินตันบุลของตุรกีไปยังกรุงสโกเปียของนอร์ทมาซิโดเนีย

นิโคไล นิโคลอฟ หัวหน้าแผนกความปลอดภัยจากอัคคีภัยและการป้องกันภัยพลเรือนของกระทรวงมหาดไทยบัลแกเรีย กล่าวกับสถานี BNT ว่ามีผู้โดยสารรอดชีวิต 7 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยบาดแผลไฟลวกรุนแรง

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้ที่รอดชีวิตเป็นชาย 5 คน หญิง 2 คน หนึ่งในนี้เป็นเด็กหญิงอายุ 16 ปี ทั้งหมดมาจากครอบครัวเดียวกัน และมีอาการทรงตัวแล้ว

เวนโก ฟิลิปเช รัฐมนตรีสาธารณสุขของนอร์ทมาซิโดเนีย กล่าวกับสถานี BNT ภายหลังไปเยี่ยมผู้รอดชีวิตที่โรงพยาบาลในกรุงโซเฟียของบัลแกเรียว่า โชคร้ายที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 46 คน รวมถึงเด็ก 12 คน

เจ้าหน้าที่กล่าวกันว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากนอร์ทมาซิโดเนีย และจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ กัน โดยยังรวมถึงชาวเบลเยียม 1 คน และเซอร์เบีย 1 คน

สื่อของมาซิโดเนียกล่าวว่า รถบัสคันนี้จดทะเบียนกับบริษัทนำเที่ยว "เบซาทรานส์" ซึ่งจัดทริปท่องเที่ยวไปยังตุรกี

นายกฯ สเตฟาน ยาเนฟ ของบัลแกเรีย และรัฐมนตรีมหาดไทย บอยโค รัชคอฟ ไปตรวจที่เกิดเหตุเมื่อเช้า ยาเนฟกล่าวในเวลาต่อมาว่าได้เปิดการสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว แต่เขาปฏิเสธคำกล่าวที่ว่าสภาพของถนนอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ.

World Data Locator Map, Bulgaria. (Photo by: Encyclopaedia Britannica/Universal Images Group via Getty Images)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิตาลี' เสียประตูเร็วสุดในประวัติศาสตร์ แต่ยังเฉือน 'แอลเบเนีย' 2-1

อิตาลี เสียประตูเร็วสุดของประวัติศาสตร์ ฟุตบอลยูโร แต่ยังพลิกชนะ แอลเบเนีย หวุดหวิด 2-1 ที่สนาม ซิกนัล อิดูนา ปาร์ก คืนวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน