การประท้วงในเปรูยังคงดำเนินต่อไป แม้ประธานาธิบดีขอร้องให้อยู่ในความสงบ

ผู้ประท้วงขว้างก้อนหินต่อสู้กับตำรวจในการเดินขบวนครั้งใหม่เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเปรูลาออก ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนถูกทิ้งให้ติดอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างมาชูปิกชู

ตำรวจปราบจลาจลปะทะกับผู้ชุมนุมระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ในกรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 19 มกราคม (Photo by ERNESTO BENAVIDES / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 กล่าวว่า ความไม่สงบในประเทศเปรูนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ผู้นำคนก่อนถูกถอดถอนและจับกุมเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เป็นเหตุให้สูญเสียชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 45 ราย (แบ่งเป็นพลเรือน 44 รายและตำรวจ 1 ราย) และกระตุ้นให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ซึ่งถูกโจมตีด้วยความรุนแรง

การปะทะล่าสุดในวันศุกร์ กองกำลังความมั่นคงยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ตอบโต้ด้วยการยิงหนังสติ๊ก ในเมืองอาเรคิปา ทางตอนใต้ของประเทศ โดยเป็นความพยายามติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการบุกเข้าไปยังรันเวย์ของสนามบินที่ถูกปิดล้อมและอยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังความมั่นคง

ในเมืองหลวงลิมา ผู้ประท้วงหลายพันคนแสดงความอาฆาตรุนแรงต่อประธานาธิบดีหญิงดีนา โบลูอาร์เต และเรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง

การปะทะกันยังปะทุขึ้นในพื้นที่อื่นๆอีก เช่น ลา ลิเบอร์ตาด ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือของเปรู

ประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ซึ่งเคยออกมายืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและไม่ใช้ความรุนแรง เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องตอบโต้ตามมาตรการภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

กลุ่มผู้ประท้วงพยายามกดดันรัฐบาล โดยใช้ความรุนแรงท้าทายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ขณะนี้ประกาศใช้ในพื้นที่ครอบคลุมกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ

ขณะที่นักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 'มาชูปิกชู' ตกค้างอยู่ในเส้นทางกว่า 300 คน หลังบริการรถไฟถูกระงับ พร้อมขอความช่วยเหลือเพื่อให้พาออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เคยมีการอพยพนักท่องเที่ยวประมาณ 200 คน ออกจากพื้นที่ท่องเที่ยวดังกล่าวมาแล้วด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพราะสนามบินถูกสั่งปิดเพื่อป้องกันภัยจากการบุกรุกของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล.

เพิ่มเพื่อน