สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยข้อมูลประชากรของประเทศเมื่อปีที่แล้วลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี ขณะที่ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านประชากร
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานการแถลงของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (เอ็นบีเอส) เมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 ระบุว่าประชากรของจีนแผ่นดินใหญ่ถึงสิ้นปี 2565 อยู่ที่ราว 1,411,750,000 คน ซึ่งลดลงจากตัวเลขประชากรของจีนเมื่อสิ้นปี 2564 จำนวน 850,000 คน
เอ็นบีเอสเผยว่า ปี 2565 มีประชากรเกิดใหม่ในจีน 9.56 ล้านคน โดยมีอัตราเกิด 6.77 ต่อประชากร 1,000 คน ซึ่งเป็นอัตราเกิดที่ต่ำกว่าในปี 2564 ที่มีอัตราเกิด 7.52 ต่อประชากร 1,000 คน ที่เป็นอัตราเกิดต่ำที่สุดของจีนในขณะนั้น
ขณะที่มีผู้เสียชีวิตในจีนปี 2565 อยู่ที่ 10.41 ล้านคน โดยมีอัตราตายอยู่ที่ 7.37 ต่อประชากร 1,000 คน เป็นอัตราตายสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 ซึ่งอยู่ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน ส่วนในปี 2564 จีนมีอัตราตายอยู่ที่ 7.18 ต่อประชากร 1,000 คน
ครั้งล่าสุดที่ประชากรจีนลดลงมากที่สุดก่อนหน้านี้คือ ในปี 2504 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่จีนเผชิญกับภาวะกับความอดอยากครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายเกษตรที่ล้มเหลวของเหมา เจ๋อตุง ที่เรียกว่า "นโยบายก้าวกระโดดครั้งใหญ่"
จีนบังคับใช้นโยบายกำหนดให้มีลูกคนเดียวในช่วงทศวรรษ 1980 เนื่องจากกลัวว่าจะมีประชากรมากเกินไป และยกเลิกนโยบายนี้ในปี 2559 และเริ่มอนุญาตให้คู่สามีภรรยา มีลูก 3 คนได้ในปี 2564
แม้ทางการจีนเปลี่ยนนโยบายควบคุมจำนวนการมีลูกของประชาชน แต่ประชากรจีนก็ยังลดลง ทั้งที่จีนเป็นประเทศที่อาศัยแรงงานจำนวนมหาศาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน
เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งของจีนออกมาตรการส่งเสริมให้คู่สามีภรรยามีลูก
ตัวอย่างเช่น นครเซินเจิ้นทางใต้ของจีน ปัจจุบันทางการเสนอให้เงินโบนัสสำหรับทารกแรกเกิดและจะช่วยค่าเลี้ยงดูจนกว่าเด็กคนนั้นจะมีอายุครบ 3 ขวบ
สามีภรรยาในนครเซินเจิ้นที่มีลูกคนแรก จะได้รับเงินช่วยเหลือจากทางการทันที 3,000 หยวน หรือราว 14,680 บาท และจะได้รับเงินโบนัสเพิ่มเป็น 10,000 หยวน หรือราว 48,938 บาท เมื่อมีลูกคนที่ 3
จากการศึกษาของสำนักสังคมวิทยาแห่งนครเซี่ยงไฮ้ที่มีการปรับปรุงเมื่อปีที่แล้ว คาดการณ์ว่าประชากรจีนจะลดลงโดยเฉลี่ยปีละ 1.1%
ตามการคาดการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของคณะนักประชากรศาสตร์ของสถาบันแห่งนี้บอกว่า จีนอาจมีประชากรเหลือเพียง 587 ล้านคน ในปี 2643 หรือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรปัจจุบันของประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติคาดการณ์ว่า ในปี 2593 จีนจะมีประชากรลดลง 109 ล้านคน เป็นการลดลงของประชากรในจีนมากกว่า 3 เท่า จากที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ในปี 2562
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ในปีนี้อินเดียจะแซงหน้าจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทีอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทีอนุภูมิภาค GMS ครั้งที่ 8 ชูแนวทางพัฒนาของไทยด้วยนวัตกรรมที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงและเท่าเทียม มั่นใจประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สามารถพัฒนาร่วมกัน
นายกฯ อิ๊งค์ถึงจีนแล้วพร้อมประชุมนานาชาติ!
นายกฯ ถึงจีนแล้ว พร้อมเข้าร่วมเวที GMS ครั้งที่ 8 และ ACMECS ครั้งที่ 10
'ปิยบุตร' ปันใจฝรั่งเศส! ซูฮก 'ประธานเหมา' เปลี่ยจีนเป็นคู่แข่งของตะวันตกอย่างสมน้ำสมเนื้อ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความว่า 75 ปี สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน]
เปิดสุนทรพจน์เอกอัครราชทูต 'หาน จื้อเฉียง' ในงานเลี้ยงฉลองครบ 75 ปี วันชาติจีน
เพจเฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่ บทปาฐกถาในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ของเอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
'อลงกรณ์' ชวนจีนลงทุน 12 อุตสาหกรรม ดันเศรษฐกิจไทย
“อลงกรณ์”โชว์วิสัยทัศน์เวทีเส้นทางสายไหมนานาชาติ ดึงจีนลงทุน12อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ดันไทยประเทศรายได้สูง
'สุรพงษ์' สั่ง บวท.เตรียมพร้อมอู่ตะเภารับนักท่องเที่ยวจีน
วิทยุการบินฯ -อู่ตะเภา และจีน ถกแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการบิน รองรับปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพทางการบินในปัจจุบันและอนาคต ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ