ไต้หวันอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าฝึกทหารกองหนุนเป็นครั้งแรก

กองทัพไต้หวันประกาศแผนการที่จะรวมผู้หญิงเข้าร่วมการฝึกทหารกองหนุนเป็นครั้งแรกในปีนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพกองกำลังป้องกันตนเองต่อต้านภัยคุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่

แฟ้มภาพ ทหารหญิงของไต้หวันขณะฝึกยุทโธปกรณ์โจมตี (Photo by Sam Yeh / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 กล่าวว่า ไต้หวันซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองในระบอบประชาธิปไตย กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันหนักอย่างต่อเนื่องจากการคุกคามด้วยกำลังทหารของจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งอ้างว่าเกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน และอาจใช้กำลังเข้ายึดคืนวันใดวันหนึ่ง

แสนยานุภาพของจีนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และเหตุการณ์รัสเซียรุกรานยูเครนยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับไต้หวันว่าจีนอาจเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน

ล่าสุด กระทรวงกลาโหมของไต้หวันกล่าวว่า จะอนุญาตให้ทหารหญิงประมาณ 200 นายที่ปลดประจำการแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้ารับการฝึกกองหนุนโดยสมัครใจได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเพิ่มกำลังพลสำรองโดยรวม

"นี่เป็นปีแรกที่กองทัพอนุญาตให้ทหารหญิงเข้าร่วมการฝึกทหารกองหนุน ดังนั้นการฝึกในปีนี้จะเป็นโครงการนำร่องไปสู่การมีส่วนร่วมของผู้หญิงมากขึ้นในภายภาคหน้า” พลตรี หยู เหวินเฉิง จากสำนักงานระดมสรรพกำลังกลาโหมของกระทรวงฯ กล่าวแถลงต่อสื่อมวลชน

"โครงการอาสาสมัครดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างประสิทธิผลของการฝึกทักษะการรบของทหารกองหนุนใหม่ เพื่อช่วยปรับปรุงขีดความสามารถในการรบของทหารกองหนุน" หยู เหวินเฉิงกล่าวเสริม

ปัจจุบัน เฉพาะชายชาวไต้หวันเท่านั้นที่ต้องเข้ารับราชการทหารภาคบังคับและฝึกกองหนุน แต่ผู้หญิงก็สามารถสมัครเข้าประจำการในกองทัพได้เช่นกันตามความสมัครใจ

นักวิเคราะห์ทางทหารหลายคนเรียกร้องให้ไต้หวันดำเนินการมากกว่านี้เพื่อเพิ่มกำลังสำรองและเตรียมประชากรพลเรือนให้พร้อมสำหรับการป้องกันประเทศ รวมทั้งอนุญาตให้ผู้หญิงได้รับการฝึกทักษะมากขึ้น

เมื่อเดือนที่แล้ว ไต้หวันประกาศว่าจะเพิ่มระยะเวลาประจำการของทหารเกณฑ์ชายภาคบังคับจากเดิม 4 เดือน ให้เป็น 1 ปี โดยอ้างถึงภัยคุกคามจากจีนที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวว่า การขยายเวลารับราชการทหารเป็นสิ่งจำเป็นในการรับประกันวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยสำหรับลูกหลานในอนาคต

ถึงแม้ไต้หวันเป็นเกาะที่มีภูเขาสูงและมีภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการถูกโจมตีได้ง่ายนัก แต่ไต้หวันมีกองกำลังป้องกันตัวเองน้อยมาก โดยมีกำลังพลภาคพื้นดินเพียง 89,000 นายเท่านั้น หากเทียบกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีกว่า 1 ล้านนายแล้ว ถือว่าเสียเปรียบอย่างมาก

ไต้หวันและจีนแยกดินแดนและระบอบการปกครองกันตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 2492 และผู้นำไต้หวันกล่าวว่าการเป็นส่วนหนึ่งของจีนเป็นสิ่งที่ชาวไต้หวันไม่มีวันยอมรับได้ ขณะที่ผู้นำจีนยึดถือคติอย่างแข็งกร้าวไม่ยอมให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราชอย่างเด็ดขาด.

เพิ่มเพื่อน