รัฐบาลบราซิลเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในเมืองหลวง เนื่องจากบรรดาผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเตรียมรวมตัวประท้วงครั้งใหม่ หลังบุกเข้ายึดสถานที่ราชการสำคัญและถูกสลายการชุมนุมเมื่อไม่กี่วันก่อน
กองกำลังรักษาความปลอดภัยสาธารณะยืนประจำการอยู่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีบราซิล เมื่อวันที่ 11 มกราคม เพื่อป้องกันเหตุจลาจลซ้ำรอย หลังมีกระแสข่าวกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี นัดรวมตัวก่อเหตุอีกครั้งเร็วๆนี้ (Photo by Sergio Lima / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2566 กล่าวว่า รัฐบาลบราซิลโดยประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในกรุงบราซิเลีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงและที่ตั้งของสถานที่สำคัญอย่างทำเนียบประธานาธิบดี, อาคารรัฐสภา และศาลฏีกา หลังจากสถานที่ราชการสำคัญดังกล่าวถูกบุกยึดและทำลายโดยกลุ่มผู้ประท้วงทางการเมืองเมื่อต้นสัปดาห์
กองกำลังความมั่นคงเข้าปะทะกับบรรดาผู้ก่อจลาจลกว่า 1,500 คน โดยใช้แก๊สน้ำตา, ระเบิดช็อตไฟฟ้า และปืนฉีดน้ำแรงดันสูง จนกระทั่งปราบปรามลงได้ในที่สุด พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุได้ราว 600 คนและเข้ายึดคืนอาคารรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกา กลับมาได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ของบราซิล ซึ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ทำการเรียกรวมตัวกันอีกครั้งในหลายเมืองเมื่อเย็นวันพุธ พร้อมมีกระแสข่าวว่าจะทำการรุนแรงอีกครั้งเร็วๆนี้
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการจลาจลซ้ำรอย เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้ปิดกั้นถนนที่นำไปสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ขณะที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยสาธารณะทั้งหมดถูกระดมเข้าสู่เมืองหลวง โดยเฉพาะพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาล รวมถึงอาคาร 3 แห่งที่เป็นเป้าหมายการจลาจลเมื่อต้นสัปดาห์
ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา กล่าวประณามการก่อจลาจลอย่างรุนแรง พร้อมชี้ว่าอดีตประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งรักษาอาการป่วยอยู่ที่สหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้จากการสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่เมื่อวันพุธโดยบริษัทข้อมูล Atlas Intelligence ในกรุงเซาเปาโล กลับพบว่าชาวบราซิลเกือบ 20% เห็นด้วยกับการก่อจลาจลที่เมืองหลวงเมื่อต้นสัปดาห์.
