เกาหลีใต้เล็งแก้ไขประเด็นชดเชยบังคับใช้แรงงานร่วมกับญี่ปุ่น

เกาหลีใต้กำลังพิจารณาชดเชยให้กับเหยื่อจากการบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามของญี่ปุ่น โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวแทนของญี่ปุ่นเข้าร่วมโดยตรง ในความพยายามสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับรัฐบาลโตเกียวเพื่อตอบโต้การรุกรานของเกาหลีเหนือ

ส.ส.ฝ่ายค้านของเกาหลีใต้และผู้สนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามของญี่ปุ่น ร่วมถือป้ายที่มีข้อความว่า “เราต่อต้านการแก้ปัญหาบังคับใช้แรงงานที่น่าอัปยศอดสูของรัฐบาลยุน ซ็อก-ยอล!” ระหว่างการประท้วงต่อต้านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในประเด็นนี้ที่รัฐสภาในกรุงโซล เมื่อวันที่ 12 มกราคม (Photo by Jung Yeon-je / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2566 กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแก้ไขปัญหาการประท้วงเรียกร้องค่าชดเชยจากอดีตแรงงานที่ถูกบังคับใช้งานในช่วงสงครามโลก ด้วยการจ่ายค่าชดเชยให้แทนบริษัทของญี่ปุ่น

เกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา แต่ความสัมพันธ์ทวิภาคีกลับตึงเครียดมาช้านานจากการปกครองคาบสมุทรเกาหลีในยุคอาณานิคมอันโหดร้ายของจักรวรรดิญี่ปุ่น (พ.ศ. 2453-2488)

ตามข้อมูลของเกาหลีใต้ ในสมัยนั้นชาวเกาหลีราว 780,000 คนถูกเกณฑ์ไปเป็นแรงงานโดยญี่ปุ่นในระหว่างการยึดครอง 35 ปี ไม่นับรวมผู้หญิงที่ถูกบังคับเป็นทาสทางเพศโดยกองทหารญี่ปุ่น

ในการไต่สวนสาธารณะเมื่อวันพฤหัสบดี ซอ มินจอง เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการเสนอแนวคิดที่ว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสามารถ "รับค่าชดเชยผ่านบุคคลที่สาม" ได้ ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงสามารถจ่ายค่าชดเชยให้แทนได้ เพื่อจบปัญหา

รายงานในท้องถิ่นระบุว่า การจ่ายเงินชดเชยจะทำโดยกองทุนที่กำลังจัดตั้งขึ้น เพื่อใช้เงินบริจาคจากบริษัทเกาหลีใต้ซึ่งได้รับประโยชน์จากแพ็คเกจค่าชดเชยจากญี่ปุ่น โดยไม่ต้องมีบริษัทญี่ปุ่นเข้าร่วมโดยตรง

แต่แนวคิดดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งต้องการเงินชดเชยและคำขอโทษโดยตรงจากบริษัทญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรมเหล่านั้น

กลุ่มผู้ที่ตกเป็นเหยื่อชนะคดีฟ้องร้องประเด็นนี้ในปี 2561 เมื่อศาลฎีกาของกรุงโซลสั่งให้บริษัทญี่ปุ่นบางแห่งจ่ายค่าชดเชยจากการบังคับใช้แรงงานในช่วงสงคราม

การทำประชาพิจารณ์มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลอนุรักษนิยมของประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล เคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างโซล-โตเกียว โดยอ้างถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้นจากเกาหลีเหนือ

คณะบริหารของรัฐบาลกำลังพยายามหาทางออกจากข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายปีกับอดีตผู้ปกครองอาณานิคม

รัฐบาลโตเกียวตกลงปฏิบัติตามสนธิสัญญาปี 2508 ที่เห็นพ้องร่วมกันในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตด้วยแพ็คเกจค่าชดเชยประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,700 ล้านบาท) ในรูปเงินช่วยเหลือและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อยุติข้อเรียกร้องทั้งหมดระหว่างสองชาติในช่วงการปกครองอาณานิคม 35 ปี.

เพิ่มเพื่อน