มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย หลังมือปืนบุกโจมตีโรงแรมซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักธุรกิจชาวจีนในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน

ควันดำที่เห็นได้ชัดว่าออกมาจากโรงแรมคาบูล ลองแกน ในย่านการค้าหลักของกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม โดยโรงแรมแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักธุรกิจจีน และถูกโจมตีล่าสุดจากกลุ่มอิสลามไอเอส จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บนับสิบ (Photo by Wakil KOHSAR / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายติดอาวุธบุกเข้าไปยังโรงแรมคาบูล ลองแกน (Kabul Longan) ในอัฟกานิสถานเมื่อวันจันทร์ ก่อนก่อเหตุกราดยิงแบบไม่เลือกเป้าหมาย จนมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 3 ราย
พยานในที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า มีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้ง โดยโรงแรมดังกล่าวสามารถเห็นควันดำพวยพุ่งจากพื้นที่หลายชั้น ขณะที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยของตอลิบันรุดไปยังที่เกิดเหตุในเวลาไม่นานและปิดล้อมพื้นที่ใกล้เคียงทันที
กลุ่มตอลิบันซึ่งปกครองอัฟกานิสถานอ้างว่าได้ปรับปรุงมาตรฐานการคุ้มครองความปลอดภัยนับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจได้ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่อัฟกานิสถานยังคงเกิดเหตุวางระเบิดและการโจมตีด้วยอาวุธอยู่หลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝีมือของกลุ่มอิสลามิสต์ติดอาวุธ (ไอเอส) เช่นเดียวกับการโจมตีโรงแรมครั้งนี้
โรงพยาบาลใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ได้รับตัวผู้บาดเจ็บเข้ารักษากว่า 21 คน รวมทั้ง 3 ศพที่เสียชีวิตมาก่อนถึงโรงพยาบาล และไม่ได้ระบุว่าผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนหรือเกี่ยวข้องกับการโจมตีหรือไม่อย่างไร
โฆษกตำรวจกรุงคาบูลกล่าวว่า ผู้โจมตี 3 รายถูกสังหาร และผู้ต้องสงสัย 1 คนถูกจับกุม
"แขกทั้งหมดของโรงแรมได้รับการช่วยเหลือ และไม่มีชาวต่างชาติเสียชีวิต มีแขกต่างชาติเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดลงมาจากชั้นบน" ซาบิอุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มตอลิบันกล่าวผ่านทวิตเตอร์
ด้านกลุ่มไอเอส ซึ่งออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุดังกล่าว ระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนของไอเอสได้ทำการโจมตีโรงแรมขนาดใหญ่ที่นักการทูตและนักธุรกิจชาวจีนนิยมเข้าพัก ในกรุงคาบูล พร้อมจุดชนวนระเบิด 2 ลูกที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋า 2 ใบ โดยนักรบทั้งสองคนคืออาบู อูมาร์ และอับดุล จับบาร์ ขว้างระเบิดมือใส่เจ้าหน้าที่ตอลิบัน ขณะที่อีกคนจุดชนวนระเบิดและยิงปืนใส่แขกของโรงแรม ทำให้มีคนกว่า 30 คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
โรงแรมคาบูล ลองแกนเป็นที่นิยมในหมู่นักธุรกิจชาวจีน ซึ่งแห่กันไปที่อัฟกานิสถานตั้งแต่กลุ่มตอลิบันกลับมามีอำนาจในประเทศอีกครั้ง โดยชาวจีนเหล่านี้ต้องการแสวงหาข้อตกลงทางธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลกำไรงาม
ประเทศจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับอัฟกานิสถานเป็นระยะทางยาว 76 กิโลเมตร ไม่ยอมรับรัฐบาลตอลิบันอย่างเป็นทางการ แต่เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังคงรักษาสถานะทางการทูตอย่างเต็มที่
รัฐบาลปักกิ่งกังวลมานานแล้วว่า อัฟกานิสถานอาจมีส่วนสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้แบ่งแยกดินแดนชาวอุยกูร์ที่เป็นชนกลุ่มน้อยในซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวของจีน
อย่างไรก็ดี กลุ่มตอลิบันให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานของกลุ่มก่อการร้าย และในทางกลับกัน จีนได้เสนอการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อการฟื้นฟูอัฟกานิสถานเป็นการตอบแทน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ห้ามพลาดเปิดบัตรเชียร์ 'ช้างศึก'ดวล'อัฟกัน' รอบบุคคลทั่วไป1มี.ค.68
ไทย ทิคเกต เมเจอร์ เตรียมเปิดขายบัตร เกม "ทีมชาติไทย" ลงอุ่นเครื่องพบกับ อัฟกานิสถาน ทีมอันดับ 156 ของโลก ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 21 มีนาคม 2568 เวลา 20.00 น. เพื่อเตรียมทีมก่อนลุยศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดแรก กับ ศรีลังกา ในวันที่ 25 มีนาคม 2568
กฤษฎีกาใหม่ในอัฟกานิสถาน สั่งปิดทุกช่องทางที่มองเห็น 'พื้นที่ของผู้หญิง'
นับแต่นี้จะไม่มีช่องทางเปิดให้เห็น “ลานบ้าน ห้องครัว หรือบ่อน้ำของเพื่อนบ้าน” อีกต่อไป อัฟกานิสถานในอนาคตจะมีหน้าต่างน้อยลง
การร่วมต่อสู้กับการกดขี่สตรีเพศชาวอัฟกานิสถานของ ‘เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์’
ไปไม่ถึงการศึกษาระดับสูง ไม่มีสิทธิออกเสียง - กลุ่มตอลิบานจงใจจำกัดชีวิตของสตรีในอัฟกานิสถาน ด้วยภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘
'นีลา อิบราฮิมิ' นักเคลื่อนไหวชาวอัฟกานิสถานได้รับรางวัล Children‘s Peace Prize
นีลา อิบราฮิมิ นักเคลื่อนไหวชาวอัฟกานิสถานวัย 17 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานของเธอในการต่อต้านการกดขี่สตรีโดย