ฟิลิปปินส์โวยจีนฉีดน้ำไล่เรือส่งเสบียงทหารในหมู่เกาะสแปรตลี

รัฐบาลฟิลิปปินส์ประท้วงจีน กรณีเรือของหน่วยยามฝั่งจีนหลายลำฉีดน้ำแรงดันสูงขับไล่เรือของฟิลิปปินส์ที่นำเสบียงไปส่งนาวิกโยธิน ที่สันดอนในหมู่เกาะสแปรตลีในทะเลจีนใต้ ที่เป็นข้อพิพาทอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อน ด้านจีนอ้างปกป้องอธิปไตย

รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า ทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า เขาได้แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง, ประณาม และประท้วงรัฐบาลจีน ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร ระหว่างที่เรือของฟิลิปปินส์กำลังเดินทางไปยังสันดอนเซคันด์โธมัส ที่อยู่ในหมู่เกาะสแปรตลี

"โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เรือของเราต้องยกเลิกภารกิจส่งกำลังบำรุง" ล็อกซินกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยกล่าวว่า เรือ 3 ลำของกองกำลังป้องกันชายฝั่งของจีนกระทำการอย่าง "ผิดกฎหมาย"

เขากล่าวถึงเรือของฟิลิปปินส์ที่โดนเรือจีนฉีดน้ำแรงดันสูงขับไล่ว่าเป็นเรือ "สาธารณะ" ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นเรือของพลเรือน และว่า เรือเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองภายใต้สนธิสัญญาป้องกันร่วมกันที่ฟิลิปปินส์ทำไว้กับสหรัฐ "จีนไม่มีสิทธิ์บังคับใช้กฎหมายทั้งในและรอบพื้นที่เหล่านี้" เขากล่าว และเตือนว่าจีนต้องระมัดระวังและถอยออกไป

ล็อกซินกล่าวว่า สันดอนซึ่งอยู่นอกชายฝั่งเมืองปาลาวัน 105 ไมล์ทะเล อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ และการที่จีนไม่แสดงความยับยั้งชั่งใจถือเป็นการคุกคามความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ ฟิลิปปินส์ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตทำในสิ่งที่ต้องการทำภายในอาณาเขตของเรา

รัฐมนตรีฟิลิปปินส์ผู้นี้เผยอีกว่า เขาได้ถ่ายทอดสารด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดถึงเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลาแล้ว เพื่อแสดงความ "ความไม่พอใจอย่างรุนแรงของเรา, ประณาม และประท้วงเหตุการณ์นี้"

สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลายังไม่แสดงทัศนะต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ที่กรุงปักกิ่ง จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เรือส่งเสบียง 2 ลำของฟิลิปปินส์เข้าน่านน้ำใกล้สันดอนแห่งนั้น "โดยไม่ได้รับความยินยอมจากจีน" และกองกำลังป้องกันชายฝั่งของจีนปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อ "ปกป้องอธิปไตยของจีน"

กองทัพเรือฟิลิปปินส์ตั้งใจแล่นเรือมาเกยตื้นที่สันดอนเซคันด์โธมัส และส่งนาวิกโยธินไปประจำการบนเรือลำนี้ เพื่อยืนยันการอ้างสิทธิ์เหนืออาณาเขตของฟิลิปปินส์ หลังจากจีนเข้ายึดครองพืดหินใต้น้ำมิสชีฟรีฟ ที่อยู่ทางตะวันออกของหมู่เกาะสแปรตลี เมื่อกลางทศวรรษ 1990

จีนอ้างสิทธิ์ครอบครองทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด โดยอ้างอิงแผนที่โบราณที่เรียกว่า แผนที่เส้นประ 9 เส้น ซึ่งคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮกเมื่อปี 2559 ระบุว่าการอ้างสิทธิ์ตามประวัติศาสตร์ของจีนไม่มีเหตุผลอ้างอิงตามกฎหมาย แต่จีนไม่ใส่ใจ โดยถือว่าสันดอนนี้เป็นดินแดนของจีน

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ตึงเครียดขึ้นในปีนี้ หลังจากตรวจพบเรือจีนหลายร้อยลำที่พืดหินใต้น้ำวิตซันรีฟ ซึ่งอยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีเช่นกัน

รัฐบาลของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ที่ต้องการหันเหการพึ่งพาสหรัฐไปคบหากับจีนมากขึ้น ไม่อยากเผชิญหน้ากับจีนนัก คาร์โล โนกราเลส โฆษกสำนักงานของเขากล่าวว่า ดูเตร์เตรับทราบเหตุการณ์นี้แล้ว และ "เราจะยังคงยืนยันอำนาจอธิปไตย, สิทธิอธิปไตยและเขตอำนาจศาลของเราต่อไป".