เปรูเปลี่ยนผู้นำข้ามคืน จับกุมคนเก่า แต่งตั้งคนใหม่

รองประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต สาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของเปรู หลังประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ถูกถอดถอนและถูกจับกุมข้อหาพยายามทำรัฐประหาร

ดีนา โบลูอาร์เต โบกมือให้กับสมาชิกสภาคองเกรส ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเปรู เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม หลังเปโดร กัสติโย ประธานาธิบดีคนก่อนถูกสภาถอดถอนและถูกจับกุมข้อหากบฏ (Photo by Cris BOURONCLE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า ประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ผู้นำประเทศที่เผชิญข้อหาทุจริตหลายกระทงและเผชิญกับกระบวนการถอดถอนของรัฐสภา พยายามประกาศยุบสภาเพื่อหนีการถอดถอนดังกล่าว จนท้ายที่สุดถูกจับกุมข้อหากบฏและก่อรัฐประหารเมื่อวันพุธ

แม้กัสติโยจะถูกจับกุม รัฐสภายังคงดำเนินการถอดถอนตามกระบวนการจนสิ้นสุด และลงมติให้ดีนา โบลูอาร์เต ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดี รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ กลายเป็นผู้นำหญิงคนแรกของประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้

ดีนาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งภายใน 2 ชั่วโมงหลังการลงมติถอดถอน และสวมสายสะพายประธานาธิบดีต่อหน้าสภาคองเกรส พร้อมปฏิญาณตนว่าจะดำรงตำแหน่งผู้นำไปจนสิ้นสุดวาระที่เหลือของกัสติโย ซึ่งจะยุติลงในเดือนกรกฎาคมปี 2569 ก่อนมีการเลือกตั้งใหม่

เนื่องจากเรื่องราวมากมายเกิดเพียงข้ามวัน ภายหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ดีนา โบลูอาร์เต ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในวันพฤหัสบดี

ดีนาหวังให้ความโกลาหลทางการเมืองสิ้นสุดหลังเปโดร กัสติโย ถูกจับกุมไปแล้ว และได้ขอให้พรรคฝ่ายค้านสงบศึกเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

คำกล่าวแรกของดีนาในฐานะประธานาธิบดี เธอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นใน "เอกภาพของชาติ" และเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติละทิ้งความแตกต่างทางอุดมการณ์ โดยอ้างถึงการเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกัสติโย และฝ่ายขวาที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา

อดีตทนายความหญิงวัย 60 ปีต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดแรกของเธอให้ได้เร็วที่สุด และโฉมหน้ารัฐบาลใหม่จะเป็นตัวชี้ชัดเบื้องต้นว่าเธอน่าจะอยู่รอดจนครบวาระหรือไม่ หรืออาจจะล้มเหลวจนต้องลาออกและถูกเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด.