มือระเบิดพลีชีพสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 รายและได้รับบาดเจ็บอีกนับสิบ หลังเหตุโจมตีสถานีตำรวจในเมืองบันดุงของอินโดนีเซีย คาดฝีมือกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์
ประชาชนยืนมุงดูขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารักษาความปลอดภัยสถานที่เกิดเหตุระเบิดพลีชีพที่สถานีตำรวจอัสตานา อันยาร์ ในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม (Photo by TIMUR MATAHARI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดพลีชีพที่สถานีตำรวจในเมืองบันดุงของอินโดนีเซีย โดยผู้ก่อเหตุรายหนึ่งซึ่งอาจเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าผู้ก่อเหตุอุกอาจดังกล่าวมีชื่อว่า อากุส ซูจาตโน วัย 34 ปี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มจามาห์ อันชารุต เดาลาห์ (JAD) ที่สนับสนุนรัฐอิสลาม และเคยถูกคุมขังในเรือนจำความมั่นคงสูงสุดเป็นเวลา 4 ปีจากความเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดในปี 2560
ซูจาตโนได้รับการปล่อยตัวในเดือนกันยายนปี 2564 หลังจากรับโทษในคดีวางระเบิดครั้งก่อนที่เมืองบันดุง
เหตุระเบิดพลีชีพเมื่อวันพุธเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่สถานีตำรวจอัสตานา อันยาร์ ในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก
ซูจาตโนพยายามบุกเข้าไปในสถานี แต่เจ้าหน้าที่ทำการหยุดเขาไว้ได้ จากนั้นเขาหยิบอาวุธมีดออกมาควง ก่อนเสียงระเบิดดังขึ้น และกลุ่มควันหนาทึบฟุ้งกระจายทั่วพื้นที่สถานีตำรวจและรอบๆข้าง
เจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือนที่สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บรวมกันกว่า 10 คน โดยส่วนใหญ่ถูกเศษกระจกบาดและตามร่างกายถูกกระแทกจากแรงระเบิด ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 2 รายคือซูจาตโนผู้ก่อเหตุและตำรวจอีกรายหนึ่ง
ตำรวจกล่าวว่าพวกเขาพบข้อความบนกระดาษที่แนบมากับรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินที่ผู้เสียชีวิตขี่มา และคาดว่าน่าจะเป็นแรงจูงใจของการระเบิดครั้งนี้
ข้อความดังกล่าวประณามประมวลกฎหมายอาญาของอินโดนีเซียว่าเป็นผลมาจาก "คนนอกศาสนา" และเรียกร้องให้ประชาชนทำสงครามกับผู้บังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ
ตำรวจยังพบปึกกระดาษในที่เกิดเหตุซึ่งแสดงการไม่ยอมรับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาที่เพิ่งผ่านไปไม่นานมานี้
กลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงบางคนเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายชารีอะฮ์ในอินโดนีเซีย
สมาชิกของกลุ่มจามาห์ อันชารุต เดาลาห์ ใช้การโจมตีด้วยระเบิดพลีชีพหลายต่อหลายครั้งในอดีต ทั้งที่กระทำต่อโบสถ์คริสต์หลายแห่ง รวมถึงสถานีตำรวจในเมืองสุราบายา ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปหลายสิบราย ไม่เว้นแม้แต่เด็ก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นางนาคพระโขนง' สุดปัง Vidio แพลตฟอร์มใหญ่อินโดนีเซีย สตรีมพร้อมไทยครั้งแรก!
เรียกว่าปัง! ส่งท้ายปี 2024 สำหรับ ช่อง 3 ละครดัง “นางนาคพระโขนง” (The Legend of Nang Nak) ล่าสุดแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ PT Vidio Dot Com ( Vidio ) บริการสตรีมมิ่งวิดีโอแบบ OTT รายใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย จับขึ้นสตรีมมิ่งให้ชาวอินโดนีเซีย ที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รับชมพร้อมประเทศไทยเป็นครั้งแรก
'ก้อง'รั้งที่5ซ้อมวันแรก 'โมโตทู'สนาม15 มันดาลิกา เซอร์กิต อินโดฯ
"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ออกสตาร์ตการทำงานยอดเยี่ยม ในสุดสัปดาห์การแข่งขัน โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 15 อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ทะยานรั้งท็อป 5 จากการซ้อมวันแรก เมื่อวันที่ 27ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งสัญญาณยอดเยี่ยมในการไล่ล่าผลงานที่ เปอร์ตามินา มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย
รัฐบาลอินโดนีเซียประชุมกันครั้งแรกในเมืองหลวงนูซานตาราที่สร้างขึ้นใหม่
อินโดนีเซียกำลังสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ในป่าของเกาะบอร์เนียว ซึ่งมีสภาพอากาศเป็นกลางและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้
ร่มร่อนทีมชาติไทย คว้า1เหรียญทอง 3 เงิน ศึกร่มร่อนลงแม่นยำ'เวิลด์คัพ' ที่่อินโดฯ
สมาคมกีฬาทางอากาศและการบินแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นําโดย นาวาอากาศเอก วีระยุทธ ดิษยะศริน ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย นักกีฬาร่มร่อนตัวแทนทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่ประจำทีม เดินทางกลับจากการแข่งขันรายการ Paragliding Accuracy World Cup 4th Series 2024 Indonesia (การแข่งขันร่มร่อนบินลงเป้าแม่นยำเวิลด์คัพ สนามที่ 4 ประจำปี 2567 อินโดนีเซีย) ระหว่างวันที่ 11 – 14 กรกฎาคม 2567 ณ เมืองลอมบอก สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
'บิ๊กจวบ' ประชุมแผนรับตัว 'แป้ง นาโหนด' กลับไทยพรุ่งนี้
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนเข้าประชุมเตรียมความพร้อมรับตัวนายเชาวลิต ทองด้วย หรือ แป้ง นาโหนด ผ่านระบบ Zoom Meeting ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
'ทอ.' กาง 2 แผนรับ 'แป้ง นาโหนด' แจงเหตุใช้ C-130 แทนแอร์บัส
ทอ. กาง 2 แผนปฏิบัติภารกิจ 13 ชม. รับ 'แป้ง นาโหนด' จากอินโดนีเซียกลับไทย ส่ง 'หน่วยคอมมาโด-หนุมาน' คุมเข้ม แจงเหตุใช้ C-130 แทนแอร์บัส 320