นิวยอร์กและสิงคโปร์ขึ้นแท่นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก จากผลสำรวจล่าสุด

มหานครนิวยอร์กและสิงคโปร์ได้รับการจัดอันดับร่วมกันว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก หลังพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในปีนี้

มหานครนิวยอร์กของประเทศสหรัฐอเมริกา (Photo by Daniel SLIM / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า แผนกวิจัยและวิเคราะห์ของดิ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) ได้ทำการจัดอันดับเมืองสำคัญต่างๆที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก และผลสำรวจประจำปีที่เปิดเผยออกมาล่าสุดระบุว่า มหานครนิวยอร์กและสิงคโปร์ได้อันดับหนึ่งร่วมกัน

สองเมืองดังกล่าวขึ้นสู่อันดับสูงสุดแทนที่กรุงเทลอาวีฟ ของประเทศอิสราเอล ที่ได้อันดับหนึ่งของปีที่แล้วและร่วงลงมาอยู่อันดับสามในรอบนี้

ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ของโลกนั้น พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เกิดการสู้รบในยูเครน รวมทั้งข้อจำกัดต่างๆจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ยังคงมีอยู่ในหลายพื้นที่ ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงานและอาหาร

มหานครนิวยอร์กได้อันดับหนึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการสำรวจ ขณะที่ลอสแองเจลิสและซานฟรานซิสโกก็ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกด้วยเช่นกัน ส่วนดามัสกัส (เมืองหลวงของประเทศซีเรีย) และตริโปลี (เมืองหลวงของประเทศลิเบีย) ยังคงอยู่ในลำดับท้ายสุด ซึ่งหมายความว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดนั่นเอง

ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ตัวเลขเฉลี่ยค่าครองชีพสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 8.1% ในเมืองใหญ่กว่า 172 เมืองที่สำรวจโดยอีไอยู

การสำรวจที่ทำโดยอ้างอิงด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ยังแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับเมือง

สกุลเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้นในปีนี้เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นจำนวนมากเพื่อแก้ไขและควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบหลายทศวรรษ

ไม่เพียงแค่สงครามในยูเครนเท่านั้นที่ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่การคว่ำบาตรของบรรดาชาติตะวันตกที่กระทำต่อรัสเซีย รวมทั้งนโยบายปลอดโควิดของจีน ล้วนทำให้เกิดปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเมื่อรวมกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ส่งผลให้ต้นทุนในทุกๆด้านเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นวิกฤติค่าครองชีพทั่วโลก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จุรินทร์' ซัดเต็มๆ ดิจิทัลฯ เป็นแค่น้ำข้าวต้มที่จะสร้างพายุหมุนหนี้ให้ประเทศ

'จุรินทร์' ซัดงบกลางปี 67 กู้มาแจกเงินหมื่นเท่านั้น ฉะโครงการล่าช้าเพราะความโหลยโท่ยของ รบ. ย้ำ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ได้ไม่คุ้มเสีย เข้าทำนองประเทศเสียหายไม่ว่าขอให้ข้าได้หาเสียง

ลุ้นสนามแตก 'มาดามแป้ง'ยืนยันช้างศึกเต็มร้อย เตะสิงคโปร์ค่ำนี้ชี้ชะตาบอลโลก

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยืนยันทีมชาติไทย มีความพร้อมเต็มที่ หลังลงฝึกซ้อมเป็นครั้งสุดท้าย เรียบร้อย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนพบกับ สิงคโปร์ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 6 ค่ำวันอังคารที่ 11 มิ.ย.นี้

'อิชิอิ'ไม่การันตี'มุ้ย-เจ'ลงสนาม เน้นเกมรุกใส่สิงคโปร์ และต้องไม่เสียประตู

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 16.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว ภายใน ราชมังคลากีฬาสถาน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มซี นัดที่ 6 ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติจีน

'มาดามแป้ง'เยี่ยมแคมป์ช้างศึก ให้กำลังใจก่อนดวลสิงคโปร์ ลุ้นเข้ารอบคัดบอลโลก

”มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดินทางกลับจากยุโรป หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัว เป็นที่เรียบร้อย วันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนที่ช่วงเที่ยงวันนี้ จะเข้ามาให้กำลังใจ ทีมชาติไทย ทันที พร้อมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ก่อนเปิดบ้านพบกับ สิงคโปร์ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 6