ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน สนทนาทางไกลกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยืดยาวกว่า 3 ชั่วโมงเมื่อเช้าวันอังคาร หารือประเด็นปัญหาใหญ่ๆ ทั่วโลก รวมถึงกรณีไต้หวัน ที่สีเตือนว่าพวกที่ส่งเสริมเอกราชของไต้หวันกำลัง "เล่นกับไฟ"
รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ว่าผู้นำของสองชาติมหาอำนาจสนทนากันผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลในเวลาค่ำของวันจันทร์ตามเวลาวอชิงตัน ซึ่งตรงกับเช้าวันอังคารตามเวลาปักกิ่ง การสนทนานานร่วม 3 ชั่วโมงครึ่งยืดยาวกว่าที่คาดกันไว้ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า ผู้นำทั้งสองสนทนากันอย่างให้เกียรติและตรงไปตรงมา
แม้ดูเหมือนว่าการเจรจาครั้งนี้จะไม่ปรากฏผลลัพธ์ในทันทีทันใด แต่ก็เปิดโอกาสให้ไบเดนและสีได้บรรเทาการเผชิญหน้าลงได้ ทั้งคู่หารือกันในหลายประเด็น ทั้งเกาหลีเหนือ, อัฟกานิสถาน, อิหร่าน, ตลาดพลังงานโลก, การค้าและการแข่งขัน, สภาพภูมิอากาศ, ประเด็นทางทหาร, โรคระบาด และประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่สองฝ่ายมักมีความเห็นไม่ลงรอยกัน
สำนักข่าวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี ซึ่งไม่ได้ออกนอกประเทศนานเกือบ 2 ปีนับแต่โควิด-19 แพร่ระบาด เปรียบเทียบจีนและสหรัฐว่าเป็น "เรือขนาดใหญ่ 2 ลำที่แล่นอยู่ในทะเล" ซึ่งจำเป็นต้องแล่นอย่างมั่นคงเพื่อไม่ให้ชนกัน
ส่วนไบเดนก็เห็นด้วยกับการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง โดยกล่าวว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้นำทั้งสองที่จะรับประกันว่าการแข่งขันระหว่างสองประเทศจะไม่หันเหไปเป็นความขัดแย้ง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
ประธานาธิบดีสี ซึ่งเรียกประธานาธิบดีไบเดนว่าเป็น "เพื่อนเก่า" กล่าวว่า จีนและสหรัฐต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น "เราเผชิญความท้าทายหลายอย่างร่วมกัน ในฐานะที่เป็นสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จีนและสหรัฐต้องสื่อสารและร่วมมือกันมากขึ้น" ข้อความที่สีกล่าวผ่านล่าม ก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะปิดห้องสนทนากันเป็นการภายใน
ประเด็นที่เป็นหัวข้อร้อนแรงที่สุดซึ่งสองฝ่ายคิดเห็นต่างกันคือไต้หวัน ซึ่งทำเนียบขาวเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ย้ำอีกครั้งงว่า สหรัฐสนับสนุนนโยบาย "จีนเดียว" แต่ขณะเดียวกัน เขาคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อความพยายามโดยฝ่ายเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ หรือบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสีได้เตือนไบเดนไปเช่นกันว่า การส่งเสริมเอกราชของไต้หวันจะเป็น "การเล่นกับไฟ"
"บางคนในสหรัฐตั้งใจ 'ใช้ไต้หวันมาควบคุมจีน' กระแสนี้อันตรายมากและเหมือนกับการเล่นกับไฟ พวกที่เล่นกับไฟจะโดนไฟไหม้" ซินหัวอ้างคำกล่าวของสี ซึ่งคุยกับไบเดนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 นับแต่ฝ่ายหลังรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐเมื่อเดือนมกราคม
"จีนอดทนและแสวงการรวมชาติอย่างสันติด้วยความจริงใจและความพยายามอย่างยิ่ง หากผู้คิดแบ่งแยกดินแดนไต้หวันยั่วยุหรือแม้แต่ล้ำเส้น เราจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด" ประธานาธิบดีสีขู่
ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวถึงประเด็นที่จีนมองว่าเป็นเรื่องภายในของจีนด้วย ทั้งกรณีทิเบต, ฮ่องกง และซินเจียง ที่ไบเดนแสดงความ "กังวล" กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปราบปราม
กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันมีท่าทีต่อการสนทนาของผู้นำมหาอำนาจทั้งสองว่า ไต้หวันหวังว่า จีนจะยอมรับ "ความรับผิดชอบร่วมกัน" ในการรักษาสันติภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน และแก้ไขความแตกต่างผ่านการสานเสวนา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โจ ไบเดน เลื่อนการเดินทางเยือนเยอรมนี เหตุเพราะพายุเฮอร์ริเคน ‘มิลตัน’
เดิมทีมีแผนจะหารือเกี่ยวกับยูเครนและตะวันออกกลาง ทว่าพายุเฮอร์ริเคนเข้ามาขวางทางเสียก่อน เป็นเหตุให้ประธ