รัฐมนตรีญี่ปุ่นรายหนึ่งลาออก หลังเผชิญข้อกล่าวหามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
ไดชิโร ยามากิวะ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตอบคำถามสื่อมวลชนที่สำนักนายกรัฐมนตรีในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม หลังประกาศลาออกจากตำแหน่งเพราะถูกสอบสวนความเชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งความสามัคคีที่เป็นเหตุให้เกิดการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ (Photo by JIJI PRESS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 กล่าวว่า ไดชิโร ยามากิวะ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ หลังถูกสอบสวนในประเด็นความเชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งความสามัคคี หรือลัทธิมูน ซึ่งเป็นต้นเหตุในการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
ยามากิวะ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการอภิปรายในรัฐสภา จึงแสดงสปิริตด้วยการลาออก เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องมัวหมองและโดนกดดันหนักในสภา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น สั่งให้รัฐบาลเปิดการสอบสวนโบสถ์แห่งความสามัคคีอย่างเป็นทางการ ภายหลังผู้ก่อเหตุสังหารอาเบะ อ้างว่าโบสถ์แห่งความสามัคคีหรือลัทธิมูน เป็นสาเหตุให้ครอบครัวล่มสลาย จนต้องก่อเหตุด้วยความแค้นเพราะเชื่อว่าอาเบะเชื่อมโยงกับลัทธิดังกล่าว
โบสถ์แห่งความสามัคคีที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อสหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก ได้ออกมาปฏิเสธการกระทำผิดใดๆตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือตามข้อมูลเท็จที่สาธารณชนร่ำลือ
ยามากิวะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในรัฐสภาหลังจากรายงานของสื่อท้องถิ่นขุดคุ้ยว่า เขาเกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความสามัคคี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาปรากฏตัวในภาพถ่ายหมู่ในปี 2562 กับภรรยาของผู้ก่อตั้งโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งยามากิวะออกมายอมรับว่าเป็นภาพของเขาเอง แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องราวตอนนั้นเป็นยังไง อีกทั้งยังเคยเข้าร่วมกิจกรรมกับโบสถ์ดังกล่าวเมื่อปี 2561 อีกด้วย พร้อมกล่าวขอโทษที่ทำให้รัฐบาลเดือดร้อน
ยามากิวะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่จะยังคงเป็น ส.ส. ต่อไป
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขายอมรับการลาออกของยามากิวะ และจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันอังคาร
ทั้งนี้ คะแนนความนิยมของรัฐบาลลดลงเหลือ 38% จากการสำรวจล่าสุดโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค หลังจากมีการเปิดเผยความเชื่อมโยงของโบสถ์แห่งความสามัคคีกับนักการเมืองในคณะรัฐบาล
การสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อโบสถ์ดังกล่าว หากพบว่าผิดจริง อาจนำไปสู่คำสั่งยุบองค์กร ซึ่งจะทำให้โบสถ์แห่งความสามัคคีสูญเสียสถานะการเป็นองค์กรทางศาสนาที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่ก็จะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้.
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 กล่าวว่า ไดชิโร ยามากิวะ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ หลังถูกสอบสวนในประเด็นความเชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งความสามัคคี หรือลัทธิมูน ซึ่งเป็นต้นเหตุในการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
ยามากิวะ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการอภิปรายในรัฐสภา จึงแสดงสปิริตด้วยการลาออก เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องมัวหมองและโดนกดดันหนักในสภา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น สั่งให้รัฐบาลเปิดการสอบสวนโบสถ์แห่งความสามัคคีอย่างเป็นทางการ ภายหลังผู้ก่อเหตุสังหารอาเบะ อ้างว่าโบสถ์แห่งความสามัคคีหรือลัทธิมูน เป็นสาเหตุให้ครอบครัวล่มสลาย จนต้องก่อเหตุด้วยความแค้นเพราะเชื่อว่าอาเบะเชื่อมโยงกับลัทธิดังกล่าว
โบสถ์แห่งความสามัคคีที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อสหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก ได้ออกมาปฏิเสธการกระทำผิดใดๆตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือตามข้อมูลเท็จที่สาธารณชนร่ำลือ
ยามากิวะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในรัฐสภาหลังจากรายงานของสื่อท้องถิ่นขุดคุ้ยว่า เขาเกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความสามัคคี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาปรากฏตัวในภาพถ่ายหมู่ในปี 2562 กับภรรยาของผู้ก่อตั้งโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งยามากิวะออกมายอมรับว่าเป็นภาพของเขาเอง แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องราวตอนนั้นเป็นยังไง อีกทั้งยังเคยเข้าร่วมกิจกรรมกับโบสถ์ดังกล่าวเมื่อปี 2561 อีกด้วย พร้อมกล่าวขอโทษที่ทำให้รัฐบาลเดือดร้อน
ยามากิวะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่จะยังคงเป็น ส.ส. ต่อไป
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขายอมรับการลาออกของยามากิวะ และจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันอังคาร
ทั้งนี้ คะแนนความนิยมของรัฐบาลลดลงเหลือ 38% จากการสำรวจล่าสุดโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค หลังจากมีการเปิดเผยความเชื่อมโยงของโบสถ์แห่งความสามัคคีกับนักการเมืองในคณะรัฐบาล
การสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อโบสถ์ดังกล่าว หากพบว่าผิดจริง อาจนำไปสู่คำสั่งยุบองค์กร ซึ่งจะทำให้โบสถ์แห่งความสามัคคีสูญเสียสถานะการเป็นองค์กรทางศาสนาที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่ก็จะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้.
