เฮอริเคนเอียนถล่มรัฐฟลอริดา

เฮอริเคนเอียนแม้อ่อนกำลังลง แต่ยังคงเป็นพายุที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อเคลื่อนตัวผ่านรัฐฟลอริดาไปยังชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากขึ้นฝั่งที่อ่าวเม็กซิโกของรัฐฟลอริดา ทำให้เกิดลมกระโชกแรง, ฝนตกหนักและคลื่นซัดชายฝั่งรุนแรง บ้านและธุรกิจไฟฟ้าดับราว 2 ล้านหลัง และเรือผู้อพยพชาวคิวบาล่มสูญหาย 20 คน

          รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ว่า เฮอริเคนเอียนขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาเมื่อบ่ายวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นเฮอริเคนความรุนแรงระดับ 4 ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 241 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

          เฮอริเคนเอียนเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อ่อนกำลังลงมากเมื่อขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา

          ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นเอชซี) รายงานภายใน 8 ชั่วโมง หลังจากพายุลูกนี้ขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา เฮอริเคนเอียนลดระดับเป็นเฮอริเคนระดับ 1 โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามมาตราเฮอริเคนแซฟเฟอร์-ซิมป์สัน ที่แยกระดับความรุนแรงของเฮอริเคน 5 ระดับ

          อย่างไรก็ตาม เฮอริเคนที่แผ่ขยายและเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ทำให้ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมเพิ่มเติมเป็นวงกว้าง

          รอน เดซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ระบุว่า พายุลูกนี้กําลังสร้างความเสียหายในรัฐฟลอริดา เขาขอให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติการประกาศภัยพิบัติในรัฐแห่งนี้จากรัฐบาลกลางเพื่อระดมทุนช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับทั่วทั้งรัฐ

          หน่วยลาดตระเวนชายแดนสหรัฐเผยว่า ผู้อพยพชาวคิวบา 20 คน สูญหายหลังจากเรือที่พวกเขาโดยสารมาจมลงนอกชายฝั่งของรัฐฟลอริดา ขณะที่เฮอริเคนเอียนเคลื่อนตัวใกล้ชายฝั่งเมื่อวันพุธ โดยชาวคิวบา 3 คน ว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งที่เกาะคีย์ของรัฐฟลอริดา และ 3 คนเจ้าหน้าที่ยามฝั่งช่วยขึ้นมาได้จากทะเล

          เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น พายุลูกนี้ทำให้มีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในเมืองเวนิส รัฐฟลอริดา ซึ่งมีประชากรราว 25,000 คน เมืองนี้อยู่ห่างจากจุดที่เฮอริเคนเอียนขึ้นฝั่งครั้งแรกที่เกาะคาโยคอสตาเมื่อ 7 ชั่วโมงก่อน ทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 32 ไมล์ หรือ 51.49 กิโลเมตร

          เอ็นเอชซีรายงานว่า เฮอริเคนเอียนคาดจะอ่อนกําลังลงอีกเมื่อข้ามคาบสมุทรฟลอริดาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะไปถึงชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในบ่ายวันพฤหัสบดี ซึ่งจะกลายเป็นพายุโซนร้อน แต่พายุลูกนี้จะทำให้มีปริมาณฝนตกถึง 30 นิ้ว ในหลายพื้นที่ตอนกลางของรัฐฟลอริดา

          จากข้อมูลของเว็บไซต์ PowerOutage.us เมื่อช่วงดึกของวันพุธ พายุลูกนี้ทําให้บ้านเรือนและธุรกิจไฟฟ้าดับลงอย่างน้อย 2 ล้านหลังทั่วรัฐฟลอริดา ไฟฟ้าดับมากที่สุดในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐ

          วิดีโอที่เผยแพร่ทางทีวีท้องถิ่นและโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นความรุนแรงของพายุลูกนี้ ทำให้น้ำท่วมเกือบถึงหลังคาบ้านในบางชุมชนริมทะเล, กระแสน้ำกวาดรถยนต์หลายคันและซากปรักหักพังของบ้านเรือนไปด้วย.