พายุไต้ฝุ่นโนรูขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์และสร้างความเสียหายหนัก ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย
พื้นที่น้ำท่วมในเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ หลังโดนพายุไต้ฝุ่นโนรูพัดถล่ม เมื่อวันที่ 26 กันยายน (Photo by Handout / PRESIDENTIAL PHOTOGRAPHERS' DIVISION / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2565 กล่าวว่า เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น"โนรู" ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์
แรงลมจากไต้ฝุ่นโนรูทำให้ต้นไม้นับร้อยหักโค่น, ไฟฟ้าดับ และน้ำท่วมเขตชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำของเกาะลูซอนช่วงวันอาทิตย์ต่อเนื่องถึงวันจันทร์
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงที่เกิดกับอาคารสิ่งปลูกสร้าง แต่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย, ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 ราย และสูญหายอีกหลายคน
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย 5 รายเสียชีวิตจากกำแพงถล่มใส่และจมลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราก หลังเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมในเขตเทศบาลซานมิเกลในจังหวัดบูลากัน ใกล้กับกรุงมะนิลา
โนรูได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นพายุไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่เข้าพัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ด้วยความเร็วลมสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ประชาชนมากกว่า 74,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านก่อนเกิดพายุ เนื่องจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่เสี่ยงและอาจทำให้เกิดดินถล่ม
สถานการณ์ปัจจุบัน โนรูได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อยและเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ไปทางทะเลจีนใต้ มุ่งหน้าไปยังเวียดนาม.
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2565 กล่าวว่า เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น"โนรู" ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์
แรงลมจากไต้ฝุ่นโนรูทำให้ต้นไม้นับร้อยหักโค่น, ไฟฟ้าดับ และน้ำท่วมเขตชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำของเกาะลูซอนช่วงวันอาทิตย์ต่อเนื่องถึงวันจันทร์
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงที่เกิดกับอาคารสิ่งปลูกสร้าง แต่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย, ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 ราย และสูญหายอีกหลายคน
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย 5 รายเสียชีวิตจากกำแพงถล่มใส่และจมลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราก หลังเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมในเขตเทศบาลซานมิเกลในจังหวัดบูลากัน ใกล้กับกรุงมะนิลา
โนรูได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นพายุไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่เข้าพัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ด้วยความเร็วลมสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ประชาชนมากกว่า 74,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านก่อนเกิดพายุ เนื่องจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่เสี่ยงและอาจทำให้เกิดดินถล่ม
สถานการณ์ปัจจุบัน โนรูได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อยและเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ไปทางทะเลจีนใต้ มุ่งหน้าไปยังเวียดนาม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัปเดตเส้นทางดีเปรสชัน 'หยินซิ่ง' ทวีรุนแรงเป็น 'พายุโซนร้อน'
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถาการณ์พายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ล่าสุดเช้าวันนี้ : ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก พายุดีเปรสชันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "หยินซิ่ง (YINXING)" แล้ว