สหรัฐกลับมาเปิดพรมแดนทางบกและทางอากาศต้อนรับนักเดินทางชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้วเมื่อวันจันทร์ ยุติการจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐจากมากกว่า 30 ประเทศที่เริ่มบังคับใช้มายาวนาน 20 เดือนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า ทางการสหรัฐและสายการบินต่างๆ ประกาศว่าได้เตรียมความพร้อมสำหรับจำนวนนักเดินทางที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อสหรัฐเปิดพรมแดนทั้งทางบกและทางอากาศในวันจันทร์เป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน นับแต่เริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับผู้ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันที่เดินทางมาจาก 33 ประเทศในกลุ่มเสี่ยง อาทิ สหภาพยุโรป, อังกฤษ, จีนและอินเดีย มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563
เควิน มูนอซ โฆษกทำเนียบขาว เผยว่า รัฐบาลได้พูดคุยกับสายการบินต่างๆ ของสหรัฐหลายครั้งแล้วเพื่อเตรียมพร้อมรับมือนักเดินทางที่จะหลั่งไหลเข้ามายังสนามบินต่างๆ เพิ่มขึ้น และเตือนว่า นักเดินทางที่ข้ามชายแดนแคนาดาและเม็กซิโกทางบกหรือทางเรือ ควรเตรียมพร้อมสำหรับการรอคิวนานขึ้น
สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และวางแผนใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้น โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์คาดการณ์ว่า ในวันจันทร์ จะมีผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นราว 50% เมื่อเปรียบเทียบกับวันจันทร์ก่อน ซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ 20,000 คน ส่วนเดลตาแอร์ไลน์เตือนผู้เดินทางให้เตรียมพร้อมสำหรับการรอคอยนานขึ้น
ที่ชายแดนทางใต้ เจ้าหน้าที่ทางการเม็กซิโกในรัฐติดชายแดนสหรัฐเตือนเช่นกันว่า จุดผ่านแดนจะมีผู้รอข้ามแดนจำนวนมาก โดยมีรายงานว่า ที่ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราในรัฐซิวดัดฮัวเรซ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐขาดแคลนแล้ว รัฐบาลรัฐนี้ยังได้เปิดระบบพิเศษเพื่อควบคุมการจราจร รวมถึงจัดหาสุขาเคลื่อนที่ตั้งไว้ที่สะพานข้ามแดน 3 แห่ง เนื่องจากประเมินว่าผู้ผ่านแดนจะต้องใช้เวลารอนานถึง 4 ชั่วโมง
การยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางครั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ที่เดินทางทางอากาศที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน เกือบทั้งหมดที่เคยอยู่ใน 33 ประเทศตามบัญชีรายชื่อ 14 วันก่อนออกเดินทาง ได้แก่ 26 ประเทศกลุ่มเชงเกนของยุโรป, จีน, อินเดีย, แอฟริกาใต้, อิหร่าน, บราซิล, อังกฤษ และไอร์แลนด์ สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้หากเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว และมีผลตรวจเชื้อเป็นลบภายใน 3 วันก่อนออกเดินทาง ส่วนสายการบินต้องจัดทำระบบติดตามผู้สัมผัสและตรวจสอบเอกสารการฉีดวัคซีนของผู้โดยสารระหว่างประเทศ
หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกชนิดที่ผ่านการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) และองค์การอนามัยโลก จะได้รับการยอมรับให้เดินทางเข้าสหรัฐได้ โดยผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับการยกเว้น.
