เหตุกองกำลังติดอาวุธของมุสลิมนิกายชีอะห์ 2 ฝ่ายที่ขัดแย้งปะทะกันในกรุงแบกแดดเมื่อวันจันทร์ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนม็อกตาดา ซาดร์ เสียชีวิต 23 ราย บาดเจ็บราว 380 คน โดยในวันอังคารยังปะทะกันต่อ และมีจรวดยิงเข้าใส่เขตกรีนโซนในเมืองหลวงของอิรัก
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 อ้างรายงานเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เมื่อเช้าวันอังคาร เผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธของมุสลิมนิกายชีอะห์ 2 ฝ่ายที่ขัดแย้งปะทะกันในกรุงแบกแดดเมื่อวันจันทร์ว่า ฝ่ายผู้สนับสนุนม็อกตาดา ซาดร์ ซึ่งเป็นผู้นำนิกายชีอะห์ในอิรัก เสียชีวิต 23 ราย และบาดเจ็บราว 380 คน ส่วนใหญ่จากบาดแผลโดนยิงและสูดดมแก๊สน้ำตา
ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นในอิรัก เนื่องจากวิกฤตทางการเมือง ซึ่งอิรักไม่มีรัฐบาลใหม่ รวมถึงนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีใหม่มาแล้วหลายเดือน หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก ทำให้ฝ่ายสนับสนุนซาดร์และฝ่ายตรงข้ามแย่งชิงอำนาจกัน และความตึงเครียดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนซาดร์บุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลเมื่อบ่ายวันจันทร์ หลังจากซาดร์ประกาศวางมือทางการเมืองทางทวิตเตอร์
จากนั้นจึงเกิดการยิงปะทะกันของกองกำลังติดอาวุธฝ่ายสนับสนุนซาดร์กับมุสลิมชีอะห์กลุ่มอื่นๆ ที่ขัดแย้งกับฝ่ายสนับสนุนซาดร์ โดยกลุ่มหลังได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเผยว่า ตลอดคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการยิงจรวดอย่างน้อย 7 ลูก เข้าใส่เขตกรีนโซนในกรุงแบกแดดที่เป็นเขตรักษาความปลอดภัยสูง โดยเป็นที่ตั้งของอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตของชาติต่างๆ และฝ่ายสนับสนุนซาดร์เปิดฉากยิงเข้ามาในเขตกรีนโซนจากด้านนอก
มีการยิงปะทะกันอีกเมื่อเช้าวันอังคาร ระหว่างฝ่ายสนับสนุนซาดร์กับทหารอิรักและกลุ่มฮาเชด อัลชาบี ที่เคยเป็นทหารอาสาสมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และขณะนี้รวมเข้ากับกองทัพอิรัก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ยินเสียงปืนอัตโนมัติและเสียงระเบิดจากจรวดอาร์พีจีดังมาจากเขตกรีนโซน
หลังเกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนซาดร์และมุสลิมนิกายชีอะห์กลุ่มอื่นเมื่อวันจันทร์ ทำให้กองทัพอิรักประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ และขยายเคอร์ฟิวต่อในวันอังคาร สภาพในกรุงแบกแดดเมื่อวันอังคารอยู่ในความเงียบแทบร้างผู้คน ร้านค้าต่างๆ ปิดทำการ และมีรถยนต์ไม่กี่คันแล่นอยู่บนถนนสายต่างๆ โดยมีรถกระบะที่มีผู้โดยสารถือปืนกลและเครื่องยิงจรวดอาร์พีจีแล่นไปมา
ซาดร์ ผู้นำนิกายชีอะห์ในอิรักผู้นี้ประกาศว่า เขาเป็นพวกชาตินิยมที่ต่อต้านการแทรกแซงจากต่างชาติทุกประเทศ ทั้งจากสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกชาติอื่น รวมถึงจากอิหร่าน เขาเป็นผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธหลายพันคน และมีชาวอิรักให้การสนับสนุนเขาทั่วประเทศหลายล้านคน ส่วนฝ่ายตรงข้ามเขา เป็นพันธมิตรกับอิหร่านมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีกลุ่มทหารอาสาสมัครหลายสิบกลุ่มที่มีอาวุธหนักและได้รับการฝึกจากทหารอิหร่าน.
