คนงานไร่ชาในบังกลาเทศ 150,000 คน หยุดงานประท้วงขอขึ้นค่าจ้าง

คนงานในไร่ชากว่า 150,000 คนของบังกลาเทศ รวมตัวหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ขึ้นค่าจ้างรายวันอีก 2.5 เท่า หลังได้รับแค่วันละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวันเท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราค่าจ้างที่ต่ำที่สุดในโลก

คนงานไร่ชาในบังกลาเทศ รวมตัวหยุดงานประท้วงในเมืองศรีมังคละ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เพื่อขอขึ้นค่าแรงในปัจจุบันที่ว่ากันว่าเป็นอัตราค่าจ้างรายวันที่ต่ำที่สุดในโลก (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565 กล่าวว่า คนงานจากไร่ชากว่า 200 แห่งทั่วบังกลาเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดูในวรรณะต่ำที่สืบทอดงานกรรมกรไร่มาตั้งแต่ยุคอาณานิคมของอังกฤษ รวมตัวกันหยุดงานประท้วงทั่วประเทศเพื่อขอขึ้นค่าแรงรายวัน

ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำต่อวันสำหรับคนงานไร่ชาในบังกลาเทศ คือ 120 ตากา หรือประมาณ 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 44 บาท) ตามอัตราที่กฏหมายกำหนด แต่ในตลาดจ้างงานจริง จ่ายกันเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ในสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ ที่สินค้าอุปโภคบริโภคทุกอย่างแพงขึ้น หมายรวมถึงอาหารและยารักษาโรค

สหภาพแรงงานบังกลาเทศเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงรายวันขึ้นเป็น 300 ตากา (ประมาณ 111 บาท) บนพื้นฐานของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและค่าเงินที่อ่อนค่าลง

คนงานจากไร่ชา 232 แห่งทั่วประเทศ ยกระดับการหยุดงานประท้วงอย่างเต็มรูปแบบในวันเสาร์ หลังประท้วงหยุดงานวันละ 2 ชั่วโมงมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกัน 4 วัน ซึ่งมีรายงานว่า คนงานไร่ชากว่า 150,000 คนได้เข้าร่วมการประท้วงดังกล่าว

กระบวนการทำงานในไร่ชาที่หยุดชะงักลงทำให้เจ้าของกิจการไร่ชายื่นข้อเสนอให้ค่าแรงรายวันเพิ่มขึ้นอีก 14 ตากา (ประมาณ 5 บาท) หลังจากที่ปรับเพิ่มให้แล้ว 18 ตากา (ประมาณ 6.6 บาท)เมื่อปีก่อน โดยเอ็ม. ชาห์ อาลม ประธานสมาคมชาบังกลาเทศ กล่าวว่า ผู้ประกอบการต่างประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและผลกำไรลดลงในช่วงที่ผ่านมา จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น,  ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะราคาก๊าซ, ปุ๋ย และน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น

นักวิจัยทางเศรษฐกิจกล่าวว่า คนงานในไร่ชาถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างเป็นระบบจากอุตสาหกรรมมานานหลายทศวรรษแล้ว เป็นระบบแรงงานทาสในยุคปัจจุบันที่บรรดานายทุนต่างกดดันรัฐให้รักษาระดับค่าจ้างในอัตราที่ต่ำที่สุดในโลกนี้ไว้ให้นานที่สุด ซึ่งไม่เป็นธรรมด้านมนุษยธรรมต่อแรงงานเหล่านั้น.