ไวรัสเลย์วีที่พบในหนูผี ทำชาวจีนติดไวรัสหลายสิบราย

จีนรายงานพบผู้คนหลายสิบรายในประเทศ ล้มป่วยด้วยไวรัสชนิดใหม่ที่พบในหนูผี แต่ยังไม่มีหลักฐานการแพร่เชื้อจากคนสู่คน

แฟ้มภาพ หนูผี (Photo by Global Wildlife Conservation / Steven Heritage / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2565 กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อลางยาเฮนิปาไวรัส (Langya henipavirus) หรือไวรัสเลย์วี (LayV) จำนวน 35 รายในมณฑลซานตงทางตะวันออก และมณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีน ตามรายงานในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ของเดือนสิงหาคม

รายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเลย์วีมีอาการไข้สูง, เหนื่อยล้า, ไอ, คลื่นไส้ และปวดหัว โดยผู้ป่วยบางรายพบความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด รวมถึงการทำงานของตับและไตบกพร่อง

ผลการวิจัยชี้ว่า สัตว์ฟันแทะจำพวกหนูผีอาจเป็นพาหะตามธรรมชาติของไวรัสดังกล่าว พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไม่มีประวัติการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างกันในบรรดาผู้ป่วยเหล่านั้น เป็นการบ่งชี้ว่า เชื้อโรคที่ได้รับมาเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ที่อาจรับมาโดยตรงจากสัตว์ที่เป็นพาหะ ไม่ใช่จากมนุษย์สู่มนุษย์ แต่ต้องเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาการพัฒนาของโรคต่อไป

ผู้ป่วยติดเชื้อที่พบส่วนใหญ่เป็นชาวนา, มีประวัติการสัมผัสสัตว์พาหะ และพบในระยะแรกเริ่มจากอาการไข้เฉียบพลัน

องค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน (Zoonoses) เป็นโรคที่เกิดในสัตว์และติดต่อไปยังมนุษย์ และจะทำให้เกิดอาการป่วยจนพัฒนาการกลายเป็นโรคอุบัติใหม่ในมนุษย์ ซึ่งโรคบางชนิดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ในขณะที่บางชนิดอาจกลายพันธุ์เป็นโรคเฉพาะของมนุษย์เท่านั้น และสามารถระบาดซ้ำได้.