กรุงปักกิ่งของจีนเผชิญมลภาวะหมอกควันทำให้ต้องปิดทางหลวงหลายสายและห้ามนักเรียนทำกิจกรรมกลางแจ้งเมื่อวันศุกร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนพลังงาน ส่วนกรุงนิวเดลีอากาศเลวร้ายเช่นกันในวันศุกร์คล้อยหลังเทศกาลดิวาลี
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า ช่วงหลายเดือนมานี้ จีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เพิ่มกำลังการผลิตถ่านหินเพื่อแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการขาดแคลนพลังงาน อันเกิดจากการควบคุมการปล่อยมลภาวะอย่างเข้มงวดให้ได้ตามเป้าหมาย และราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สูงเป็นประวัติการณ์
สำนักอุตุนิยมวิทยาของจีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า หมอกควันหนาทึบปกคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนเมื่อวันศุกร์ โดยทัศนวิสัยในบางพื้นที่ลดลงเหลือไม่ถึง 200 เมตร
โรงเรียนในกรุงปักกิ่งได้รับคำสั่งให้หยุดการเรียนการสอนนอกชั้นเรียนและกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ ทางหลวงที่ทอดไปยังเมืองใหญ่ต่างๆ อาทิ เซี่ยงไฮ้, เทียนจิน และฮาร์บิน ถูกปิดใช้งานเนื่องจากทัศนวิสัยต่ำ
สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง ระบุว่า ค่ามลภาวะทางอากาศเมื่อวันศุกร์ถึงระดับที่ "ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก" สำหรับประชาชนทั่วไป
ระดับของอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ พีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ประมาณ 230 ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัดที่ 15 ที่องค์การอนามัยโลกรับรอง
เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่งกล่าวโทษมลภาวะที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและการแพร่กระจายของมลภาวะในภูมิภาคนี้ และว่าหมอกควันน่าจะยังคงอยู่จนถึงค่ำวันเสาร์เป็นอย่างน้อย แต่ตันชิง หลี่ ผู้จัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงานของกรีนพีซเอเชียตะวันออก กล่าวว่า ต้นตอของมลภาวะหมอกควันในภาคเหนือของจีนคือการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ทั้งนี้ พลังงานราวร้อยละ 60 ที่จีนผลิตนั้นมาจากการเผาไหม้ถ่านหิน
ส่วนที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย สภาพอากาศเมื่อวันศุกร์หลังเทศกาลแห่งไฟ หลายพื้นที่มีอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 400 จากค่าเฉลี่ยดัชนีคุณภาพอากาศ และสูงกว่าระดับที่องค์การอนามัยโลกรับรองเกิน 15 เท่า
แม้ว่าปีนี้ ศาลสูงของอินเดียจะสั่งห้ามขายประทัดในกรุงนิวเดลีและรัฐบาลท้องถิ่นเรียกร้องประชาชนงดการจุดประทัดระหว่างเทศกาลดิวาลี แต่คนจำนวนมากยังขัดขืนคำสั่งนี้.