องค์การอนามัยโลกเตือนภัยสูงสุดฝีดาษลิง

องค์การอนามัยโลกประกาศว่าการระบาดของโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลก ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนสูงสุด หลังจากพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเกือบ 17,000 คน ใน 74 ประเทศ

แฟ้มภาพ วัคซีนโรคไข้ทรพิษที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านยาของสหภาพยุโรปแนะนำให้อนุมัติใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิงซึ่งปัจจุบันองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลก (Photo by JOE RAEDLE / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565 กล่าวว่า ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวันเสาร์ให้การระบาดของโรคฝีดาษลิงทั่วโลกเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

กีบรีเยซุสกล่าวว่า คณะกรรมการฉุกเฉินซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านโรคฝีดาษลิงได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดี แต่ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของตัวเขาในฐานะผู้นำ ที่จะต้องตัดสินใจว่าจะประกาศแจ้งเตือนสูงสุดหรือไม่

"การประเมินขององค์การอนามัยโลกบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงของโรคฝีดาษลิงอยู่ในระดับปานกลางทั่วโลก และในทุกภูมิภาค ยกเว้นในภูมิภาคยุโรปที่องค์การอนามัยโลกประเมินในระดับความเสี่ยงสูง" กีบรีเยซุสแถลง

โรคฝีดาษลิงระบาดในคนไปแล้วกว่า 16,800 คน ใน 74 ประเทศ ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม

สหรัฐอเมริกาออกมาขานรับการประกาศขององค์การอนามัยโลกทันทีว่าเป็น "การเรียกร้องให้ประชาคมโลกหยุดการแพร่กระจายของไวรัสชนิดนี้"

ราจ ปันจาบี ผู้อำนวยการอาวุโสด้านความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลกและการป้องกันทางชีวภาพของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "การประสานงานระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญในการหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคฝีดาษลิง, การปกป้องชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะติดโรค และการต่อสู้กับการระบาดในปัจจุบัน"

องค์การอนามัยโลกระบุว่า การติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่พบในผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน, อายุน้อย และอยู่ในเขตเมือง โดยรวมแล้ว 98% ของผู้ติดเชื้อมักเป็นเกย์หรือกะเทย และประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อ มักเคยไปสถานที่ที่มีกิจกรรมทางเพศ เช่น ปาร์ตี้เซ็กซ์หรือซาวน่า ช่วง 1 เดือนก่อนหน้า

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า การระบาดมักเข้มข้นในหมู่ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ซึ่งหมายความว่า การระบาดจะสามารถหยุดได้ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมในวงจรที่ถูกต้อง

โรคฝีดาษลิงคือโรคติดเชื้อไวรัสที่คล้ายกับไข้ทรพิษและตรวจพบครั้งแรกในมนุษย์เมื่อปี 2513 แต่โรคฝีดาษลิงมีอันตรายและติดต่อได้น้อยกว่าไข้ทรพิษ โดยอาการเริ่มแรกของโรคดังกล่าว ได้แก่ ไข้สูง, ต่อมน้ำเหลืองบวม และมีผื่นคล้ายอีสุกอีใส ซึ่งปกติอาการจะไม่รุนแรงและมักจะหายไปเองตามธรรมชาติหลังจากผ่านไปสองถึงสามสัปดาห์

หน่วยงานเฝ้าระวังด้านยาของสหภาพยุโรปแนะนำให้มีการอนุมัติใช้อิมวาเน็กซ์ (Imvanex) หรือที่รู้จักกันในนามวัคซีนไข้ทรพิษ เพื่อป้องกันโรคฝีดาษลิง

อิมวาเน็กซ์ (Imvanex) พัฒนาโดยบาวาเรียน นอร์ดิก ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพแบบครบวงจร และยาชนิดนี้ได้รับการอนุมัติใช้ในสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2556 สำหรับการป้องกันโรคไข้ทรพิษ หรือโรคฝีดาษ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดผลสอบ 'ฝีดาษลิง' ธรรมชาติรังสรรค์ หรือมนุษย์ประดิษฐ์!

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "การสอบสวนฝีดาษลิงธรรมชาติสร้างสรรค์หรือมนุษย์ประดิษฐ์"

'หมอยง' เปิดผลวิจัยการให้วัคซีน หลังสัมผัสเชื้อ 'ฝีดาษลิง'

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วัคซีนป้องกันฝีดาษ

'หมอยง' แจงยิบ 'วัคซีนฝีดาษ' รุ่น 1-3 และอาการข้างเคียง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วัคซีนป้องกันฝีดาษ

หมอยง : เราควรจะไปฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษวานรหรือไม่

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “เราควรจะไปฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษ

ไขข้อสงสัย ฝีดาษลิง สายพันธุ์ใหม่ ‘Clade 1B’ เหตุใดจึงถูกยกระดับเป็นภัยฉุกเฉินระหว่างประเทศ

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) สายพันธุ์ Clade 1B ทั่วโลกรวมถึงไทยที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้แถลงข่าวการพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิงสายพันธุ์