โจ ไบเดนร่วมประชุมกลุ่มอาหรับเรื่องวิกฤตน้ำมัน ก่อนปิดท้ายภารกิจเยือนตะวันออกกลาง

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เข้าร่วมประชุมกับบรรดาผู้นำชาติอาหรับจากสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับในซาอุดิอาระเบีย พร้อมหารือเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวนหนัก

(จากซ้ายไปขวา) ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี ของอียิปต์, สมเด็จพระราชาธิบดีฮาหมัด บิน อีซา บิน ซัลมาน อัล-คาลีฟา กษัตริย์แห่งบาห์เรน, ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา, โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย, กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน, ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ทานี ประมุขแห่งกาตาร์, และเมชาล อัล-อะหมัด อัล-อะจาเบอร์ อัล-ซาบะฮ์ มกุฎราชกุมารแห่งคูเวต ถ่ายภาพร่วมกันระหว่างการประชุมสุดยอดสภาความร่วมมือแห่งชาติอ่าวอาหรับ ในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม (Photo by MANDEL NGAN / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2565 กล่าวว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างภารกิจเยือนตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการ ได้เข้าร่วมประชุมสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับในประเทศซาอุดิอาระเบียเมื่อวันเสาร์ คาดว่าจะมีการหารือเรื่องพลังงานน้ำมันที่ขาดแคลน และราคาที่ผันผวนในตลาดโลกขณะนี้

โดยการประชุมของผู้นำชาติอาหรับที่เมืองเจดดาห์ในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยผู้นำและตัวแทนจากชาติอาหรับ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต, โอมาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์, บาห์เรน, อียิปต์, จอร์แดน และอิรัก

ภารกิจหลักของผู้นำสหรัฐฯในการเยือนตะวันออกกลาง มุ่งหวังการกระชับความสัมพันธ์, การหารือทางเศรษฐกิจ, การค้า, การประสานความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและชาติอาหรับอื่นๆในภูมิภาคนี้ และการแสดงนัยยะทางการเมืองระดับโลกในฐานะผู้นำชาติตะวันตก เพื่อคานอำนาจและบทบาทกับรัสเซียและจีน

เมืองเจดดาห์จะเป็นจุดหมายสุดท้ายของไบเดนในการเยือนตะวันออกกลาง ภายหลังได้พบปะเจรจากับบรรดาผู้นำชาติตะวันออกกลาง ทั้งประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์, นายกรัฐมนตรี ยาเออร์ ลาปิด ของอิสราเอล และการเข้าพบกับโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

ไบเดนหารือกับมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียในหลายประเด็นเมื่อวันศุกร์ ทั้งการกระชับความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมานานหลายทศวรรษ, ฐานะซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่ และคู่ค้าด้านอาวุธ ซึ่งมีรายงานว่า ผู้นำทั้งสองชาติเห็นพ้องและลงนามในข้อตกลง 18 ฉบับในด้านต่างๆ ทั้งด้านพลังงาน, กิจการอวกาศ, สาธารณสุข และการลงทุนขนาดใหญ่ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี 5จี และ 6จี.

เพิ่มเพื่อน