'ค็อป26' : ผู้นำกว่า 100 ประเทศลั่นหยุดการทำลายป่าภายในปี 73

ผู้นำมากกว่า 100 ประเทศร่วมกันให้คำมั่นระหว่างการประชุมโลกร้อน "ค็อป 26" ที่สกอตแลนด์วันอังคารว่าจะหยุดการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2573 รวมถึงสนับสนุนกองทุนอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าทั่วโลกมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ว่านายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือค็อป 26 ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ ประกาศในวันเดียวกันนี้ว่า ผู้นำมากกว่า 100 ประเทศร่วมกันลงนามแถลงการณ์ร่วม ที่ให้คำมั่นว่าจะหยุดการตัดไม้ทำลายป่าและฟื้นคืนผืนป่าภายในปี 2573 รวมถึงจะสนับสนุนกองทุนของภาครัฐและเอกชนมูลค่า 19,200 ล้านดอลลาร์

จอห์นสันกล่าวว่า ประเทศที่ลงนามในครั้งนี้มีพื้นที่ป่ารวมกันมากกว่า 85% ของโลก ซึ่งรวมถึงป่าแอมะซอน, ป่าเขตหนาวของแคนาดา และป่าฝนลุ่มน้ำคองโก

เขาชี้ว่า ข้อตกลงว่าด้วยการหยุดการตัดไม้ทำลายป่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการบรรลุเป้าหมายของการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้อยู่ในขอบเขต 1.5 องศาเซลเซียส

เกือบ 1 ใน 4 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมดมาจากกิจกรรมการใช้ดิน เช่น การตัดไม้, การทำลายป่า และการทำเกษตร

ประเทศที่ลงนามรวมถึงบราซิลและรัสเซีย ซึ่งถูกระบุว่าตัดไม้ทำลายป่าในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่สหรัฐ, จีน, ออสเตรเลีย และฝรั่งเศสก็ร่วมลงนามเช่นกัน

รัฐบาลบราซิลซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ประกาศในที่ประชุมเมื่อวันจันทร์ว่า บราซิลจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ครึ่งหนึ่งจากระดับของปี 2548 ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากที่เคยให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดการปล่อยก๊าซให้ได้ 43%

ส่วนอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากจีน, สหรัฐ และสหภาพยุโรป นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ประกาศว่า อินเดียกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2613

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียกล่าวว่า ป่าฝน, ป่าโกงกาง, ทะเล และพื้นที่พรุ เป็นกุญแจสำคัญต่อการจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเทศของเขายึดมั่นต่อการปกป้องแอ่งคาร์บอนที่สำคัญเหล่านี้และต้นทุนทางธรรมชาติของเราสำหรับคนรุ่นต่อไป

คำมั่นสัญญาของผู้นำมากกว่า 100 ประเทศประกาศว่าจะ "หยุดและย้อนกลับการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของดินภายในปี 2573" โดยครอบคลุมถึงคำมั่นที่จะรักษาสิทธิของชนพื้นเมือง และยอมรับบทบาทของพวกเขาในฐานะผู้พิทักษ์ป่า

แม้ผู้นำอังกฤษจะคุยว่าคำมั่นสัญญาแบบนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่เอเอฟพีกล่าวว่า ในการประชุมโลกร้อนของสหประชาชาติที่นิวยอร์กเมื่อปี 2557 ที่ประชุมก็เคยมีคำประกาศคล้ายกันว่าจะลดอัตราการตัดไม้ทำลายป่าลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 และหยุดการทำลายป่าภายในปี 2573 แต่ป่าก็ยังคงถูกทำลายในระดับเดียวกับยุคอุตสาหกรรม รวมถึงป่าแอมะซอนในบราซิลภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร.