การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 (จี7) เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว ด้วยประเด็นร้อนแรงของสงครามในยูเครน ที่บรรดาผู้นำในที่ประชุมเห็นพ้องในการห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อกดดันเพิ่มเติมในการคว่ำบาตรรัฐบาลมอสโก
(จากซ้ายไปขวา) ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป, นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี, นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา, ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี, ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา, นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ, นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ถ่ายภาพร่วมกันระหว่างการประชุมสุดยอด จี7 ซึ่งจัดขึ้นที่ปราสาทเอลเมา ทางตอนใต้ของเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน (Photo by JONATHAN ERNST / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม จี7 ของปี 2565 เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้วระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน ที่โชลส์ เอลเมา เทือกเขาบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นสถานที่เดิมที่เคยจัดประชุมกลุ่ม จี7 เมื่อปี 2558
ในปีนี้ บรรดาผู้นำสูงสุดจาก 7 ชาติที่ร่ำรวยที่สุด ต่างเข้าร่วมอย่างพ้อมเพรียง ได้แก่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา, นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ, ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี, นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา, นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุม พร้อมผู้นำพิเศษอย่างเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
ในการประชุมของทุกปี จะเป็นการหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัย, เศรษฐกิจ และสภาพอากาศทั่วโลก ส่วนในปีนี้เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกคือ การสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งบรรดาผู้นำเห็นพ้องต้องกันในการประณามการกระทำของรัสเซียและจะร่วมคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามอย่างเร็วที่สุด
ภาวะสงครามในยูเครนไม่เพียงก่อผลร้ายต่อประเทศคู่สงครามแต่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจไปทั่วโลก โดยเฉพาะปัญหาด้านพลังงานและการขาดแคลนอาหาร หลายประเทศเริ่มเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่กำลังไต่ระดับ หลายประเทศเริ่มขาดแคลนพลังงานและเผชิญวิกฤตอาหาร การปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดเลย ดังนั้นบรรดาผู้นำ จี7 จึงร่วมหามาตรการเพิ่มเติมเพื่อหยุดการทำสงครามจากฝั่งรัสเซียให้ได้
การห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในวันแรกของการประชุม เพราะว่าทองคำเป็นสินค้าส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย และเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินและพวกพ้อง
จากข้อมูลของฝั่งสหรัฐฯ รัสเซียมีสัดส่วน 5% ของการส่งออกทองคำทั่วโลกในปี 2563 และ 90% ของปลายทางการส่งออกของรัสเซียคือบรรดาประเทศกลุ่ม จี7 โดยลูกค้าใหญ่คือสหราชอาณาจักร
นอกจากห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซียแล้ว มาตรการบีบบังคับให้ผู้ผลิตน้ำมันตรึงราคาไม่ให้พุ่งสูงตามกระแสโลก, การสนับสนุนความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มขึ้นแก่ยูเครน, การลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย รวมถึงการเฝ้าระวังท่าทีของจีนมากขึ้น เพราะจีนเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ทั้งหมดล้วนเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาเพื่อหยุดรัสเซียและปูตินให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่วิกฤตโลกจะยืดเยื้อไปนานกว่านี้
ไม่เพียงแค่ปัญหาสงครามยูเครน-รัสเซีย บรรดาผู้นำ จี7 ยังต้องเผชิญกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส และภาวะรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ของขวัญจากรัสเซีย ถึง 'คิม จอง อึน'
เริ่มจากเกาหลีเหนือส่งทหารไปสนับสนุนแนวรบของรัสเซียก่อน จากนั้นมอสโกจึงส่งมอบของขวัญพิเศษตอบแทนเปีย
รัสเซีย ขัดขวางมติหยุดยิงของยูเอ็นในซูดาน
นายพลสองคนซึ่งเป็นคู่แข่งแย่งชิงอำนาจ ต่อสู้กันในซูดานมาเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งแล้ว ขณะนี้รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสห