ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาชี้ขาดในคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับสิทธิในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ก่อนจะมีคำพิพากษาด้วยเสียงข้างมากว่า พลเมืองอเมริกันมีสิทธิที่จะพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะได้ตามอิสระแห่งตน โดยไม่ผิดกฎหมาย
![32D39YB-highres](https://storage-wp.thaipost.net/2022/06/32D39YB-highres.jpg)
เคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ถือคำพิพากษา 135 หน้าของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่ชี้ขาดว่า ชาวอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กผิดหวังอย่างมากกับคำพิพากษาดังกล่าว หลังสหรัฐฯประสบเหตุร้ายจากการกราดยิงด้วยอาวุธปืนในช่วงที่ผ่านมา จนฝ่ายนิติบัญญัติพยายามแก้กฎหมายควบคุมอาวุธปืน แต่คำพิพากษาดังกล่าวอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง (Photo by Kevin P. Coughlin / Office of Governor Kathy Hochul / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาพิพากษาด้วยเสียงข้างมากเมื่อวันพฤหัสบดี และตัดสินว่า ชาวอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ กลายเป็นประเด็นในความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อสังคมชาวอเมริกันทุกคน หลังเกิดเหตุกราดยิงหลายสิบครั้งในสหรัฐฯตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมในเท็กซัสเมื่อเดือนที่แล้ว
ตุลาการศาลสูงสุดมีมติ 6 ต่อ 3 ในคำพิพากษาที่ว่าชาวอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ซึ่งคำพิพากษาดังกล่าวกลายเป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายอายุกว่าร้อยปีของรัฐนิวยอร์กที่กำหนดให้บุคคลต้องพิสูจน์ว่าตนมีความจำเป็นในการป้องกันตัวที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมี "เหตุอันควร" ในการได้รับใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน
รัฐอื่นๆ อีกหลายแห่งในสหรัฐฯ รวมทั้งแคลิฟอร์เนีย มีกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน และคำพิพากษาของศาลสูงสุดในครั้งนี้ จะทำให้ฝ่ายบริหารพบกับความยากลำบากในการจำกัดผู้คนจากการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และอาจกระตุ้นให้เกิดเหตุกราดยิงมากขึ้นในอนาคตได้ หากผู้คนสามารถพกพาอาวุธปืนกันได้อย่างอิสระ
ในระยะหลัง มีการเรียกร้องให้จำกัดการใช้อาวุธปืนมากขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ 2 ครั้งในเดือนพฤษภาคม คำพิพากษาล่าสุดของศาลสูงสุดกลายเป็นชัยชนะของผู้สนับสนุนอาวุธปืนที่ฟ้องร้องต่อศาลโดยอ้างอิงว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ รับรองสิทธิ์ในการครอบครองและพกพาอาวุธปืน และหลังมีคำพิพากษา บรรดาผู้ฟ้องร้องต่างร่วมยินดี ก่อนทิ้งท้ายประโยคเด็ดที่ว่า “สิทธิในการป้องกันตัวและปกป้องครอบครัวและคนที่คุณรัก ไม่ควรสิ้นสุดแค่ที่บ้านของคุณ แต่คือทุกๆที่”
การพิจารณาคดีครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งที่ 2 ในรอบกว่าทศวรรษ หลังจากก่อนหน้านี้ในปี 2551 ศาลสูงสุดมีคำพิพากษาว่า ชาวอเมริกันมีสิทธิ์เก็บอาวุธปืนไว้ที่บ้าน
เคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวถึงการพิจารณาคดีล่าสุดนี้ว่าเป็น "วันที่มืดมน"
“เป็นเรื่องเลวร้ายที่ในช่วงเวลาของการพิจารณาความรุนแรงของอาวุธปืนในระดับชาติ ศาลสูงสุดกลับตีแสกหน้ากฎหมายของนิวยอร์กที่จำกัดจำนวนผู้ที่จะสามารถพกพาอาวุธปืนได้” โฮชูล กล่าว
ตุลาการเสียงข้างมากทั้ง 6 คน ลงความเห็นไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯรับรองให้บุคคลมีสิทธิในการป้องกันตัว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การป้องกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่มิอาจละเมิดได้ การกำหนดให้มีการขออนุญาตหรือบังคับให้ต้องมีใบอนุญาตในการพกพาปืนในที่สาธารณะตามคำสั่งหรือดุลยพินิจของรัฐ ถือเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พลเมืองอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยอิสระแห่งตน
การพิพากษาคดีดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐฯกำลังพิจารณาร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่ยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะมีทั้งผู้ที่เห็นพ้องกับการควบคุมอาวุธปืน และผู้ที่เห็นต่าง จนยังไม่ได้รับเสียงข้างมากให้มีการแก้ไขหรืออนุมัติกฎหมายใหม่ออกมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทรัมป์' พ่นพิษ! นายกฯอิ๊งค์ ตั้งทีมเฉพาะกิจ รับมือสหรัฐขึ้นกำแพงภาษีสินค้า
นายกฯแพทองธาร กำชับครม.รับมือ มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ 'โดนัลด์ ทรัมป์' หวั่นกระทบหนักต่อสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม
นักวิชาการ มธ. จับตา 'สหรัฐ-ไทย' ความเสี่ยงกับ 2 นโยบาย 'ทรัมป์'
นักวิชาการธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ผลพวงสงครามการค้าสหรัฐฯ ชี้ ‘ไทย’ ยังไม่ได้รับกระทบจาก โดยตรง เหตุ “ทรัมป์” พุ่งเป้าไปที่ประเทศปัญหา ‘ยาเสพติด-เข้าเมืองผิดกฎหมาย’ เป็นลำดับแรก แต่ในทางอ้อมการขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% อาจทำให้คำสั่งการผลิตในไทยลดลงได้ แนะจับตาอีก 2 มาตรการที่ยังไม่ประกาศ “ขึ้นภาษีสินค้าจากประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ – มาตรการกีดกันการค้าจากสหรัฐฯ” หากใช้จริง ไทยอาจตกเป็นเป้าหมายด้วย
นายกฯ พบค่ายหนังยักษ์มะกันหวังดันไทยเป็นฮับถ่ายทำภาพยนตร์
นายกฯ พบค่ายหนังยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ดันไทยเป็นฮับถ่ายทำภาพยนตร์ โชว์ซอฟพาวเวอร์ทำรายได้เข้าประเทศ
จับตา ‘อุ๊งอิ๊ง’! โชว์วิสัยทัศน์ เวทีผู้นำเอเปก
จับตา "นายกฯ อิ๊งค์" โกอินเตอร์! บินลัดฟ้าสหรัฐ ไม่ได้พบตัวแทนทำเนียบขาว แต่ไปเจอทีมไทยแลนด์ มอบนโยบายขับเคลื่อนความร่วมมือในภูมิภาคอเมริกา