นายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปที่พรรครัฐบาลของเขาสามารถครองที่นั่ง ส.ส.เกินครึ่งสภาได้ โดยจำนวนลดลงจากครั้งก่อนเพียงเล็กน้อย ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดีดรับผลเลือกตั้งปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือน
รายงานของเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาปรากฏว่ารัฐบาลผสม พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ และพรรคโคเมโตะ ยังสามารถรักษาที่นั่งข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไว้ได้ แม้จะลดลงจากครั้งก่อน โดยคิชิดะประกาศชัยชนะเมื่อวันจันทร์ พร้อมกับยอมรับว่าเป็นศึกเลือกตั้งที่ยากมาก
สื่อของญี่ปุ่นรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการว่า แอลดีพี-โคเมโตะได้ ส.ส. 293 ที่นั่ง จากสภา 465 ที่นั่ง ลดลงจากเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่รัฐบาลผสมครองที่นั่ง 305 ที่นั่งในสภา โดยที่พรรคแอลดีพี ซึ่งผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ว่าเสี่ยงที่จะสูญเสีย ส.ส.จำนวนมากและอาจได้ไม่เกินครึ่งสภาด้วย กลับสามารถเก็บชัยชนะได้ 261 ที่นั่ง แม้จะลดลงแต่ก็ยังรักษาสถานะพรรคที่มีเสียงเกินครึ่งสภาไว้ได้ ส่วนโคเมโตะ ได้ที่นั่งเพิ่มจาก 29 เป็น 32 ที่นั่งในครั้งนี้
"เป็นการเลือกตั้งที่ยากมาก แต่เจตจำนงของประชาชน ที่ต้องการให้เราสร้างอนาคตของประเทศนี้ภายใต้รัฐบาลแอลดีพี-โคเมโตะที่มีเสถียรภาพ และการบริหารโดยคิชิดะ ได้แสดงให้เห็นแล้ว" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นวัย 64 ปีกล่าว "เราได้รับที่นั่งอันล้ำค่า 261 ที่นั่งสำหรับแอลดีพี ในฐานะพรรคที่รับผิดชอบ เราจะปฏิบัติตามอาณัติของประชาชน"
คิชิดะ ซึ่งประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งได้ 1 เดือน ให้คำมั่นว่าเขาจะกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโรคระบาด โดยเขาจะร่างมาตรการนี้ภายในเดือนพฤศจิกายน และจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่โดยเร็วที่สุดภายในปีนี้
นอกจากนี้ เขาประกาศด้วยว่า ญี่ปุ่นจะรับบทนำในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนเหลือศูนย์ในเอเชีย
นักลงทุนแสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา ด้วยความคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีเสถียรภาพและจะเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้น โดยดัชนีตลาดหุ้นนิกเกอิปิดตัวในวันจันทร์เพิ่มขึ้น 2.6% สูงที่สุดในรอบ 1 เดือน
ธุรกิจของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมาก โดยเฉพาะบาร์และร้านอาหาร แม้ญี่ปุ่นจะไม่เคยใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบครอบคลุมก็ตาม คิชิดะเข้ารับตำแหน่งต่อนายกฯ โยชิฮิเดะ ซูกะ ที่ลาออกหลังได้รับตำแหน่งได้เพียงปีเดียว ส่วนหนึ่งเพราะความไม่พอใจของประชาชนต่อการตอบสนองวิกฤติโควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยในญี่ปุ่นราว 18,000 คน
คิชิดะกล่าวว่า เขาจะปรับปรุงศักยภาพของระบบสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วย และจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นภูมิคุ้มกันตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้.
