ผู้คนนับพันร่วมชุมนุมเพื่อสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศในสิงคโปร์

ชาวสิงคโปร์หลายพันคนในชุดสีชมพูมารวมตัวกันที่สวนสาธารณะ เพื่อเรียกร้องให้มีการยอมรับสิทธิ LGBTQ มากขึ้น ถือเป็นการชุมนุมครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 หลังยกเลิกมาตรการโควิด

ภาพถ่ายทางอากาศของผู้ชุมนุมนับพันคนที่เข้าร่วมงาน "จุดสีชมพู (Pink Dot)" ประจำปี เพื่อแสดงการสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศของกลุ่ม LGBTQ ที่สวนสาธารณะฮงลิม ในสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน (Photo by Roslan RAHMAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ชาวสิงคโปร์ออกมาชุมนุมทำกิจกรรมแสดงออกเพื่อเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQ ในวันเสาร์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการยอมรับทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการรับรองด้านกฎหมาย

สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองและพัฒนาแล้ว แต่ทัศนคติทางสังคมยังคงมีความอนุรักษ์นิยม และการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันยังคงผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่ากฎหมายที่บัญญัติไว้ จะไม่ได้บังคับใช้อย่างจริงจังก็ตาม

การชุมนุมเพื่อสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศ "จุดสีชมพู (Pink Dot)" ของสิงคโปร์ เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2552 และดึงดูดผู้คนมารวมตัวทำกิจกรรมกันจำนวนมากในแต่ละปี เพื่อร่วมกันสร้าง "จุดสีชมพู" เป็นสัญลักษณ์แสดงการสนับสนุนการไม่แบ่งแยกความหลากหลายทางเพศ และการมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมในสิงคโปร์ แม้ว่าจะมีกระแสต่อต้านจากผู้ไม่เห็นด้วยในสังคมอยู่เนืองๆก็ตาม

หลังจากจัดกิจกรรมออนไลน์ได้เพียงอย่างเดียวในช่วงการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส ในปีนี้ ประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลออกมาชุมนุมเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันที่สวนสาธารณะใจกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวในเมืองที่ได้รับอนุญาตให้มีการชุมนุมโดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้คนนับพันคนในชุดสีชมพู เดินโบกธงสีรุ้งไปตามถนนเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่รวมตัวกันในสวนสาธารณะ มีการถือป้ายแสดงความคิดเห็นเพื่อการสนับสนุนสิทธิทางเพศและการสนับสนุนให้มีการยอมรับการเป็น  LGBTQ (เลสเบี้ยน, เกย์, ไบเซ็กชวล, ทรานส์เจนเดอร์, เควียร์) เฉกเช่นในพื้นที่อื่นๆทั่วโลก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมิถุนายนที่เป็นเดือน Pride Month หรือ เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศ

นักวิจารณ์กล่าวว่า ความก้าวหน้าทางด้านสิทธิทางเพศของสิงคโปร์นั้น ถือว่ายังล้าหลังหากเทียบกับความก้าวหน้าของประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น ไต้หวันและอินเดีย โดยปัจจัยหลักมาจากบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายที่มีแนวคิดแบบยุคอาณานิคมของอังกฤษ ที่ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกัน และกลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีบทบาทในการคว่ำกฎหมายสิทธิทางเพศหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยยืนหยัดให้รักษากฎหมายเดิมไว้ แต่จะไม่บังคับใช้อย่างจริงจังในทางปฏิบัติ

อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนกลุ่มเพศที่หลากหลายในสิงคโปร์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางสังคมในหมู่คนรุ่นใหม่ และการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติจำนวนมาก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแน่ 'คมนาคม' เร่งศึกษาค่าธรรมเนียมรถติด

“คมนาคม” เดินเครื่องศึกษามาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด เปิดโมเดล 4 ประเทศ “อังกฤษ-สิงคโปร์-สวีเดน-อิตาลี” พบช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดอย่างเป็นรูปธรรม ด้าน สนข. เร่งศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ ชี้ช่วยดึงดูดประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เชื่อมระบบฟีดเดอร์-ขนส่งหลัก หนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

'MCOT New Journey' รุกหนักทุกเจเนอเรชัน พร้อมผลักดันสู่สากล

บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดงาน “MCOT New Journey” รุกหนักทุกเจเนอเรชัน พร้อมผลักดันสู่สากล ที่ Phenix Pratunam Bangkok โดย ผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (รก.ผอ.ใหญ่ บมจ. อสมท) ได้เผยถึงทิศทางที่ไม่ล้อมกรอบ สร้างคอมมูนิตี้ที่หลากหลาย พร้อมต่อยอดทุกคอนเทนต์

'น้ำชา' คัมแบคซิงเกิลใหม่ ได้ 'นัท นิสามณี' มาร่วมงาน

หลังจากกลับมาทำเพลงอีกครั้ง โดยร่วมงานกับสังกัดวอร์นเนอร์ มิวสิก ประเทศไทย (Warner Music Thailand) ปล่อยซิงเกิล "Cha Boo!", “กลับมาให้กอด (I’m Sorry)” และ "Mascara” ให้ได้ฟังไปแล้ว ซึ่ง Namcha (น้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์) จัดเต็มสมเป็นหนึ่งในนักร้องระดับหัวแถวของบ้านเรา ทั้งอารมณ์และพลังเสียง เนื้อหา-ดนตรีทันยุคทันสมัย มุมมองเข้ากับประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มขึ้น

อย่าลดทอนคุณค่าเพศคนอื่น! 'เอิร์ธ' เผยสิ่งที่ต้องเจอมาตลอด

ซีรีส์ "FOUREVER YOU เพราะรักนำทาง" ใกล้จะออนแอร์ทางค่ายจึงมีการปล่อยเทรลเลอร์ แต่กลับยังมีคอมเมนต์ยึดติดกับเพศสภาพของ เอิร์ธ-กัษมนณัฏฐ์ นามวิโรจน์ มีการบอกว่าชอบนะแต่พอมาเล่นซีรีส์วายแล้วจินตนาการไม่ออกว่าแสดงเป็นผู้ชาย