Revlon (เรฟลอน) บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ยื่นขอล้มละลายกิจการ

Revlon (เรฟลอน) บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ยื่นขอล้มละลาย หลังกิจการทรุดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งจากการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงโดยตลาดออนไลน์, ความนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และภาวะเงินเฟ้อ

แฟ้มภาพ โลโก้ เรฟลอน (Revlon) บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์บางส่วนที่วางจำหน่ายในร้านค้าแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย (Photo by JUSTIN SULLIVAN / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า เรฟลอน บริษัทเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานของสหรัฐฯ ประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนักจนขอยื่นล้มละลายกิจการเมื่อวันพุธ

Revlon Inc (เรฟลอน อิงค์) ยื่นขอล้มละลายกิจการต่อศาลในสหรัฐฯ เพื่อขอความคุ้มครองตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย เพื่อดำเนินการกับหนี้เสียขององค์ที่มีอยู่กว่า 1,000 – 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 35,000 – 350,000 ล้านบาท)

เรฟลอน ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บและลิปสติก แจ้งรายงานว่า มีหนี้สินระยะยาวมูลค่า 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 110,000 ล้านบาท) ในไตรมาสแรก

“การยื่นขอล้มละลายในวันนี้จะทำให้เรฟลอนสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เราได้ส่งมอบให้กับผู้บริโภคของเรามานานหลายทศวรรษต่อไปได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการกำหนดเส้นทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับการเติบโตในอนาคตของเรา” เดบราห์ เพอเรลแมน ประธานกรรมการบริหารของเรฟลอน กล่าวในแถลงการณ์

ในสหรัฐอเมริกา มาตรา 11 ของประมวลกฎหมายล้มละลาย หรือที่รู้จักในชื่อ การปรับโครงสร้างองค์กรล้มละลาย จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับโครงสร้างกิจการของตัวเองได้ ในขณะที่ได้รับการคุ้มครองให้พิทักษ์ทรัพย์จากเจ้าหนี้ รวมถึงดำเนินกิจการต่อไปได้

เรฟลอนคาดหมายว่า จะได้รับเงินจากการขอสินเชื่อจำนวน 575 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 20,000 ล้านบาท) หากการล้มละลายได้รับการอนุมัติจากศาล

เรฟลอน เป็นกิจการของโรนัลด์ เพอเรลแมน มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน และบริหารงานโดย เดบราห์ เพอเรลแมน ผู้เป็นลูกสาว มีกิจการดำเนินงานและมีแบรนด์สินค้ามากมายใน 150 ประเทศ เริ่มประสบปัญหาจากวิกฤตห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและภาวะอัตราเงินเฟ้อสูง อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อรายได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้สะสมหนี้สินไว้จำนวนมากจนไม่สามารถดำเนินกิจการได้ดังเดิม และต้องขอยื่นล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการกลับมาอีกครั้ง.