รัสเซียมีรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท จากการส่งออกเชื้อเพลิงในช่วง 100 วันของสงครามยูเครน

รัสเซียยังคงมีเงินเต็มคลัง หลังทำรายได้ไปกว่า 3.4 ล้านล้านบาท ในช่วง 100 วันที่ผ่านมา จากการส่งออกเชื้อเพลิง แม้จะถูกคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้าจากชาติตะวันตกอยู่ก็ตาม ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้จริงจังกับการคว่ำบาตรรัสเซียในทุกทางเพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงในการทำสงครามกับยูเครน

แฟ้มภาพ โลโก้ ก๊าซพรอม (Gazprom) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย (Photo by Nikolay DOYCHINOV / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า แม้ว่าจะทุ่มเทกับการสู้รบในยูเครนและการถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก แต่ช่วง 100 วันที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มทำสงครามกับยูเครน รัสเซียมีเงินเข้าคลังจากการส่งออกเชื้อเพลิงไปแล้วกว่า 93,000 ล้านยูโร (ราว 3.4 ล้านล้านบาท) โดยเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ส่งไปยังสหภาพยุโรป

ศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (ซีอาร์อีเอ) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในฟินแลนด์และเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เสริมในรายงานว่า สหภาพยุโรปเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเชื้อเพลิงฟอสซิลจากรัสเซียในช่วง 100 วันแรกของสงครามยูเครน ในสัดส่วน 61% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 57,000 ล้านยูโร (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) รองลงไปได้แก่ จีน 12,600 ล้านยูโร, เยอรมนี 12,100 ล้านยูโร และอิตาลี 7,800 ล้านยูโร

ขณะที่รัสเซียเอง มีรายได้จากการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลในรูปแบบของน้ำมันดิบสูงสุดที่ 46,000 ล้านยูโร (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) รองลงมาคือการส่งก๊าซผ่านท่อส่ง, ผลิตภัณฑ์น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และถ่านหิน

แม้ว่ายอดการส่งออกของรัสเซียจะลดลงในเดือนพฤษภาคม โดยประเทศและบริษัทต่างๆ หลีกเลี่ยงการเป็นแหล่งรายได้ให้รัสเซียจากกรณีรุกรานยูเครน แต่ราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นทั่วโลกจากภาวะสงคราม กลับทำให้รัสเซียยังคงมีเงินเต็มคลังและมีรายได้จากการส่งออกเชื้อเพลิงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปัจจุบันมียอดส่งออกเชื้อเพลิงสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 60% เลยทีเดียว

ศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (ซีอาร์อีเอ) ยังให้ข้อมูลอีกว่า รัสเซียมีแนวโน้มจะรวยขึ้นอีกหลังจากบางประเทศได้เพิ่มการจัดซื้อพลังงาน เช่น จีน, อินเดีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือแม้กระทั่งฝรั่งเศส

ลอรี มิลลิเวอตา นักวิเคราะห์ของซีอาร์อีเอ กล่าวว่า "ในขณะที่สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเข้มงวดมากขึ้น ฝรั่งเศสกลับเพิ่มการนำเข้าจากรัสเซียในฐานะผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) รายใหญ่ที่สุดในโลก ถึงแม้จะเป็นการทำสัญญาซื้อระยะสั้นก็ตาม"

ยูเครนยังคงเรียกร้องให้นานาชาติคว่ำบาตรรัสเซียในทุกๆทางอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้รัสเซียมีทุนรอนในการทำสงครามต่อไป

เมื่อต้นเดือนมิถุนายน สหภาพยุโรปตกลงที่จะหยุดการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียส่วนใหญ่ แม้ทั้งทวีปต้องพึ่งพาพลังงานเหล่านั้นอย่างมากก็ตาม ส่วนเชื้อเพลิงก๊าซ แม้จะงดนำเข้าไม่ได้ แต่จะลดสัดส่วนลง 2 ใน 3 ให้ได้ภายในปีนี้ และยูเครนหวังว่าชาติตะวันตกจะดำเนินการอย่างจริงจังให้สอดคล้องกับคำพูด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง