ภูเขาไฟบูลูซานในฟิลิปปินส์เกิดการปะทุ และพ่นขี้เถ้าควันดำขนาดใหญ่ขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่งผลให้หลายพื้นที่เดือดร้อนอีกระลอก หลังเพิ่งฟื้นตัวจากการปะทุเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า
ภูเขาไฟบูลูซานกำลังปะทุและพ่นขี้เถ้าควันสีเทาพุ่งขึ้นไปในอากาศ ในจังหวัดซอร์โซโกน ทางใต้ของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน (Photo by Handout / Courtesy of Mylene Ganton Sierra / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ภูเขาไฟบูลูซานในจังหวัดซอร์โซโกน ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ เกิดระเบิดปะทุขึ้นมาเป็นรอบที่สอง และในครั้งนี้กินเวลานานประมาณ 18 นาที ตามรายงานของหน่วยงานด้านแผ่นดินไหวของฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ทัศนวิสัยบนท้องถนนลดลง และสายการบินต่างๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบิน
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ภูเขาไฟบูลูซานเริ่มปะทุรอบแรก ปล่อยขี้เถ้าควันสีเทาพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยความสูงกว่า 1 กิโลเมตร (0.6 ไมล์) ก่อนจะกระจายปกคลุมไป 10 หมู่บ้าน จนประชาชนต้องอพยพหนีออกจากพื้นที่
ประชาชนที่อาศัยในเมืองจูบัน จังหวัดซอร์โซโกน ซึ่งยังคงหลอนจากการปะทุของภูเขาไฟบูลูซานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในวันอาทิตย์เนื่องจากเสียงคำรามของบูลูซาน
ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่หน่วยงานด้านแผ่นดินไหวได้ยกระดับการแจ้งเตือนภัยในระดับ 1 (จาก 5 ระดับ) เพื่อบ่งชี้สถานะ "ความไม่สงบระดับต่ำ"
“เรายังพูดไม่ได้ว่ามันจบลงแล้ว และยังเป็นไปได้ว่าอาจเกิดการปะทุขึ้นมาอีก จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องเฝ้าระวังภูเขาไฟบูลูซานอยู่ตลอด” เรนาโต โซลิดัม หัวหน้าหน่วยงานด้านแผ่นดินไหวกล่าวกับสื่อมวลชนท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่สาธารณภัยฉุกเฉินถูกส่งไปทำความสะอาดถนนที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนเหล่านั้น และมีรายงานเที่ยวบิน 5 เที่ยวบินในพื้นที่ถูกยกเลิก
สำนักงานภัยพิบัติในพื้นที่ของเมืองจูบัน กล่าวว่า มีประชาชนผู้เดือดร้อนจากเหตุดังกล่าว 366 คน ยังอาศัยอยู่ในที่พักพิงฉุกเฉิน โดยส่วนใหญ่อพยพออกมาก่อนการปะทุ เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งก่อนการปะทุจะตามมา
ภูเขาไฟบูลูซานเกิดการปะทุในลักษณะเดียวกันนี้หลายสิบครั้งในปี 2559 และ 2560
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในบริเวณ "วงแหวนแห่งไฟ" ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรแปซิฟิก และยังมีภูเขาไฟที่ปะทุได้อยู่อีกมากกว่า 20 แห่ง.